HoonSmart.com>>“PTG”โดดเด่นสวนกระแสโควิด กำไร Q1 ปี 64 โต 159.9% รายได้ทะลุ 3.2 หมื่นล้านบาท ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันสูงกว่าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 9.7% รักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 2 ส่งสัญญาณโตต่อเนื่อง ยังคงเป้าปี 64 ขยายสาขาเพิ่ม คาดEBIDAโตได้ 10-15%
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2564 ว่า บริษัทฯมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 32,264 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,143 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327 ล้านบาท เติบโต 159.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากปริมาณการขายในธุรกิจน้ำมันเติบโต 1,336 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศที่มีการใช้น้ำมันลดลง 0.6% ทำให้บริษัทฯยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ผ่านทุกช่องทางเป็นอันดับ 2 โดยมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 15.5%
สำหรับรายได้ที่มาจากธุรกิจน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 96.2% ของรายได้รวมทั้งหมด และอีก 3.8% มาจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ซึ่งในไตรมาสนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น อยู่ที่ 1,251 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยไตรมาสนี้มีปริมาณการจำหน่ายแก๊ส LPG ที่ 62 ล้านลิตร หรือคิดเป็นเติบโต 56.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ ยังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดการจำหน่ายแก๊ส LPG ผ่านสถานีบริการเป็นลำดับที่ 3 โดยมีสัดส่วนทางการตลาด 16.0% ในขณะที่การจำหน่ายแก๊ส LPG ครัวเรือนและอุตสาหกรรม ของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น กว่า 5,644% ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีมาร์เก็ตแชร์ในส่วนของธุรกิจ LPG โดยรวมเป็นอันดับ 5 คิดเป็น 3.9%
นอกจากนี้ ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยก็ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ Same Store Sales ของกาแฟพันธุ์ไทยสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น 13.9% จากปีที่แล้ว
บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายขยายธุรกิจไปยังธุรกิจพลังงานทดแทน โดยไตรมาส 1 ปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ ซึ่งให้บริการใน 5 สถานี และมีแผนขยายให้ครอบคลุมกว่า 13 จังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับภาพรวมของไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทฯ ยังคงเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันในเดือนเมษายน ซึ่งมีปริมาณจำหน่ายน้ำมันเติบโต 15.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงการใช้บริการแก๊ส LPG ผ่านช่องทางต่างๆมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าการขยายสาขาและจุดบริการ touchpoints รวม 3,160 สาขา ซึ่งรวมถึงการขยายสาขาของธุรกิจ Non- Oil เพื่อให้เกิดศักยภาพและการเติบโตสูงสุด และคาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันยังคงเติบโตได้ 8-12% และปริมาณการจำหน่ายแก๊ส LPG มากกว่า 100% ซึ่งส่งผลให้คงประมาณการเติบโตของ EBITDA ที่ 10-15%