HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง ดาวโจนส์ปิดลบ 164 จุด เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด เดินหน้าทำ QE ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 28 เมษายน 2564 ปิดที่ 33,820.38 จุด ลดลง 164.55 จุด หรือ 0.48% หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลาง (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ 0% และคงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไว้ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,183.18 จุด ลดลง 3.54 จุด, -0.08%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,051.03 จุด ลดลง 39.19 จุด, -0.28%
เฟดไม่ส่งสัญญาณใดที่บ่งชี้ว่าจะลดการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไปอีกระยะหนึ่ง แม้เศรษฐกิจแข็งแกร่งต่อเนื่องและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจนกว่าจะเห็นเงินเฟ้อและการจ้างงานปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมาย
เฟดได้ประเมินเศรษฐกิจดีขึ้นและยอมรับว่าเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้น โดยระบุว่า ท่ามกลางการความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนและนโยบายสนับสนุนที่เข้มแข็ง กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานแข็งแกร่งขึ้น
โดยที่เงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาว คณะกรรมการยังคงต้องการเห็นเงินเฟ้อสูงกว่า 2% เล็กน้อยต่อเนื่องระยะหนึ่ง และคาดว่าจะยังต้องคงนโยบายการเงินไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
ดัชนี S&P 500 ระหว่างวันปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดหลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์
ประธานเฟดแถลงข่าวว่า คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะบรรลุเป้าหมาย และยังไม่ถึงเวลาที่จะเริ่มพิจารณาลดวงเงินซื้อพันธบัตรต่อเดือน
อย่างไรก็ตามตลาดอ่อนตัวลงหลังนายพาวเวลล์ยอมรับว่า ราคาสินทรัพย์บางประเภทปรับตัวขึ้นไปสูงและอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น
สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) รายงานผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนอง ในสัปดาห์ก่อน ลดลง 2.5%
หุ้นอัลฟาเบท บริษัทแม่กูเกิลเพิ่มขึ้น 3% จากกำไรไตรมาสแรกดีกว่าคาดและรายได้เติบโต 34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง 2.8% แม้ผลการดำเนินงานดีกว่าคาด รายได้เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 จากยอดขายคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์จาก Leuthold Group ระบุว่า นักลงทุนรอการรายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มFAANG ในสัปดาห์นี้ก่อนตัดสินใจวางทิศทางลงทุนในระยะต่อไป
นอกจากนี้ยังรอการชี้แจงรายละเอียดแผนการใช้จ่ายและคืนภาษีวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น 1.5% จากการปรับตัวขึ้นของดอยช์แบงก์ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะออกมาหลังปิดตลาด
หุ้นดอยช์แบงก์เพิ่มขึ้น 10.7% จากกำไร 908 ล้านยูโร เป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งสุดในรอบ 7 ปี จากธุรกิจอินเวสเม้นท์แบงกิ้ง
หุ้นลอยด์แบงก์ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 3.5% หลังผลการดำเนินงานดีกว่าคาดและปรับประมาณการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 439.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด หรือ +0.02%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,963.67 จุด เพิ่มขึ้น 18.70 จุด, +0.27%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,306.98 จุด เพิ่มขึ้น 33.22 จุด, +0.53%
ดัชนี DAX ปิดที่ ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,292.18 จุด เพิ่มขึ้น 42.91 จุด, +0.28%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 63.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 67.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว
