SCBAM : “กำไร Q1 บจ.ในตลาดหุ้นประเทศหลัก เบื้องต้นมีผลประกอบการที่ดีขึ้น”

๐ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวแย่ลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากปธน. Joe Biden เตรียมประกาศรายละเอียดแผนปรับขึ้นภาษีกาไรจากการลงทุน (Capital gains tax) กับผู้ที่มีรายได้สูงขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 20% เป็น 39.6% ในวันที่ 28 เม.ย. และยังมีแผนที่จะขึ้นภาษีในส่วนอื่นๆ อย่างไรก็ดี รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษทจดทะเบียนในตลาดหุนประเทศหลักเบื้องต้นจากข้อมูลวันที่ 22 เม.ย. มีผลประกอบการที่ดีขึ้น อีกทั้งความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งล่าสุด สหรัฐฯ และยุโรปมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนถึง 39.85% และ 19.39% ของจานวนประชากรทั้งหมดตามลาดับ หนุนให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดทาการตามปกติได้มากขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ และแผนการลงทุนระยะยาวของสหรัฐ ฯ ด้วยวงเงินประมาณ 3-4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะหนุนให้เศรษฐกิจและตลาดหุนฟื้นตัวดียงขึน้ิ่ ้

๐ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นประเทศหลักเบื้องต้น จากข้อมูลวันที่ 22 เม.ย. มีผลประกอบการที่ดีขึ้น นำโดยผลประกอบการบริษทจดทะเบียนในยุโรป ประกาศออกมา 16.6% มี Earning Surprise 45.55% และ Sales Surprise 5.54% ขณะที่ผลประกอบการบริษทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ประกาศออกมา 16.6% มี Earning Surprise 37.86% และ Sales Surprise 5.24% นับเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุนในช่วงนี้ และคาดว่าผลประกอบการทีจะทยอยประกาศออกมาจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นต่อไป

๐ ECB มีมติคงนโยบายการเงินเดิมตามคาดและยังไม่มีการพิจารณาชะลอการซื้อสินทรัพย์ผ่าน PEPP โดย ECB จะยังคงทาการเข้าซือสินทรัพย์ผานมาตรการ Pandemic Emergency Purchase Program (PEPP) ที่วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโรจนถึงเดือนมี.ค. 2022 เป็นอย่างน้อย และจะยังคงเข้าซื้อสินทรัพย์แบบ่ปกติ (APP) ทีอตรา 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนกว่าจะมันใจว่าวิกฤต COVID-19 ได้สิ้นสุดแล้ว

๐ ครม.มีแผนจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีก 6.5-11.5 ล้านโดสในปีนี้ และขยายจำนวนผู้รับสิทธิ์และระยะเวลาใช้สิทธิ์ ในโครงการ “เราชนะ” ในส่วนของวัคซีน ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการนาเข้าวัคซีนมาแล้ว 2,117,000 โดส ทางรัฐบาลมีแผนที่จะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีก 6,000,000-11,000,000 โดส ในช่วงเวลาที่เหลือของปี ขณะที่จะมีขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการ “เราชนะ” เพิ่มขึ้นจาก 31.1 ล้านคน เป็น 33.5 ล้านคนและเพิ่มกรอบวงเงินจาก ไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 213,242 ล้านบาท และขยายระยะเวลาในการใช้จ่ายออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2021 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค. 2021

กลยุทธ์การลงทุน
ตลาดตราสารทุน

ตลาดหุ้นไทย : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นเกาหลี : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นจีน : แนะนำ “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” หุ้นจีน H-Shares และคงน้ำหนัการลงทุนในหุ้นจีน A-Shares”
ตลาดหุ้นยุโรป : ปรับคำแนะนำจาก “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” เป็น “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: แนะนำ “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน

ตลาดตราสารหนี้
ตราสารหนี้ไทย : แนะนำ “คงการลงทุน”
ตราสารหนี้ต่างประเทศ : แนะนำ “ลงทุนใน SCBFIN และ SCBUSHY”