HoonSmart.com>>ลุยเก็งกำไรหุ้น AIE เทิร์นอะราวด์ มองกำไรปีนี้เติบโตสูงต่อเนื่อง บล.เอเชียเวลท์ ชี้เป้าหมาย 2.30-2.72 บาท ปัจจัยหนุนอื้อ
ราคาหุ้นบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี ( AIE ) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น ราคาขึ้นไปสูงสุด 1.74 บาท และปิดที่ 1.69 บาท เพิ่มขึ้น 0.31 บาท sinv 22.46% มูลค่าซื้อขาย 867.24 ล้านบาท
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียเวลท์ ประเมินกรอบราคาเป้าหมายเบื้องต้น 2.30- 2.72 บาท อิง PER 21.90 เท่า
จากปัจจัยปี 2564 คาดธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง จาก 3 ปัจจัยบวกหนุน 1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ 2. การเพิ่มกำลังการผลิต 3. อัตรากำไรเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ
ประเมินกำไรสุทธิ อยู่ในกรอบ 550-650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่ 489 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัท ฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลปี 63 ที่ 0.05 บาทต่อหุ้น และให้ Warrant สัดส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาใช้สิทธิ 0.25 บาท (XD และ XW วันที่ 12 เม.ย.64)
ลักษณะธุรกิจ และโครงสร้างรายได้
AIE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) , น้ำมันพืช (Palm Olein) และกลีเซอรีนบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นผลผลิตจากการกลั่น น้ำมันปาล์มดิบ
นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายผลผลิตพลอยได้อื่น ๆ เช่น กรดไขมันปาล์ม (PFAD) และไขมันปาล์มบริสุทธิ์ (Palm Stearing)
นอกจากนี้ บริษัท เอ ไอ พอร์ต แอนด์ เทอร์มินัลส์ ซึ่ง AIE ถือหุ้น 99.99% ดำเนินธุรกิจจัดเก็บน้ำมันปาล์ม น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น และ ท่าเทียบเรือ
โครงสร้างรายได้ AIE มีรายได้หลักปี 63 จำก (1) รายได้การขาย ซึ่งมาจากธุรกิจน้ำมันปาล์ม และกลีเซอรีนบริสุทธิ์ (2) รายได้จากการเดินเรือ และ (3) รายได้อื่น ๆ
สำรหรับปี 63 ที่ผ่านมา รายได้หลักของบริษัทกว่า 99% มาจากการขายน้ำมันปาล์ม โดยเฉพาะน้ำมันไบโอดีเซล
คาดแนวโน้มปี 64 ยังสดใสต่อเนื่อง จาก
(1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มคลี่คลายมากขึ้น
(2) การเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทในช่วง 4Q63 มาอยู่ที่ 7.5 แสนลิตรต่อวัน จาก 6.5 แสนลิตรต่อวัน ช่วยผลักดันรายได้ทั้งปี 64 ของบริษัท และ (3) อัตราการทำกำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าช่วง ม.ค. 64 บริษัทจะได้รับผลกระทบระยะสั้นจาก COVID-19 เนื่องจากบริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร
ทั้งนี้ปี 2563 ผลประกอบการพลิกกลับมากำไร โดยไตรมาส 4/63 ที่ 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 360% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 55% เป็น 1,600 ล้านบาท กำไรขึ้นต้นเพิ่มขึ้น เป็น 17.50% เทียบ 8.2% ในไตรมาส 3/63
ขณะที่กำไรสุทธิทั้งปี 2563 อยู่ที่ 489 ล้านบาท เทียบปี 2562 ที่ขาดทุน 156 ล้านบาท ซึ่งผลดำเนินงานที่พลิกเป็นกำไร มาจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 178% เทียบช่วงเดียวกันปี 2562 เป็น 5,519 ล้านบาท หลังรายได้ส่วนธุรกิจน้ำมันไบโอดีเซล ปรับตัวขึ้น 200% เป็น 4,977 ล้านบาท ได้อุปสงค์ของน้ำมันไบโอดีเซล อีกทั้งราคาน้ำมันปาล์ม ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของปี 2563 กว่า 1 เท่าตัว รวมไปถึงเริ่มผลิตและจำหน่าย กลีเซอรีนบริสุทธิ์