GL ร่วงกว่า 9% เปิดเทรดชั่วคราววันแรก เล็งขายหุ้นแบงก์เจทรัสต์อินโดคืนหนี้

HoonSmart.com>> นักลงทุนเทหุ้น GL เปิดร่วง 22% ก่อนฟื้นตัวขึ้น ลดลงกว่า 9% หลังตลาดหลักทรัพย์เปิดซื้อขายชั่วคราว 17 ก.พ.-16 มี.ค.นี้ ด้านบริษัทเล็งขายหุ้นแบงก์เจทรัสต์อินโดนีเซียชำระหนี้

หุ้น กรุ๊ปลีส (GL) ร่วงแรงหลังตลาดหลักทรัพย์เปิดให้ซื้อขายหุ้นชั่วคราววันแรก เปิดตลาดราคาลงแตะ 0.94 บาท ลดลง 0.26 บาท หรือ -21.67% และลงไปต่ำสุด 0.82 บาท ณ เวลา 12.24 น. อยู่ที่ 1.09 บาท ลดลง 0.11 บาท หรือ -9.17% มูลค่าการซื้อขาย 96.28 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลดเครื่องหมาย SP ชั่วคราวหุ้น GL ระหว่างวันที่ 17 ก.พ.-16 มี.ค.2564 โดยให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance ผู้ซื้อต้องชำระเงินทั้งจำนวนก่อนการซื้อหลักทรัพย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว หลังจากนั้นจะขึ้นเครื่องหมาย SP ในวันที่ 17 มี.ค. 2564

ด้านบริษัท กรุ๊ปลีส (GL) แจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความในศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ ระหว่าง J Trust Asia Pte. Ltd และ Group Lease Holdings Pte. Ltd. ตามที่ตลาดสอบถาม

ตามที่ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2560 บริษัท J Trust Asia Pte. Ltd (JTA) ได้ยื่นฟ้อง Group Lease Holdings Pte. Ltd. (GLH) บริษัทย่อยที่บริษัท กรุ๊ปลีส ถือหุ้นทั้งหมดต่อศาลสิงคโปร์ โดยกล่าวหาว่า GLH และจำเลยอื่นๆ ร่วมกันหลอกลวงทำให้ JTA เชื่อว่าสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ดีกว่าความเป็นจริงจึงได้ตกลงเข้ามาลงทุนในบริษัทฯ ซึ่งเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2563 ศาลสูงแห่งประเทศสิงคโปร์มีคำพิพากษายกฟ้องของ JTA ที่ฟ้องจำเลยทั้งหมดฐานละเมิดโดยร่วมกันหลอกลวงให้เข้าทำธุรกรรม พร้อมทั้งสั่งให้ JTA ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของจำเลย ซึ่งต่อมา JTA ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว และต่อมาเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2563

ศาลอุทธรณ์แห่งประเทศสิงคโปร์ได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลสูงแห่งประเทศสิงคโปร์โดยตัดสินให้ GLH และจำเลยอื่นๆ ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นบางส่วนจากการลงทุนของ JTA เป็นจำนวน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,187 ล้านบาท) นั้น

เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2564 บริษัทฯ ได้เริ่มทำการชำระเงินตามคำพิพากษาศาลสิงคโปร์ โดยได้จ่ายเงินราว 24 ล้านเหรียญสหรัฐ (685 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย) ในรูปของการหักกลบลบหนี้กับคดีความที่บริษัทฯ ชนะคดีมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2563 ซึ่งศาลแพ่งในประเทศไทยตัดสินว่า JTA ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ ในประเทศไทย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ชำระเงินตามคำพิพากษาศาลสิงคโปร์จำนวน 37 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) ในส่วนที่เหลืออยู่อีกจำนวน 9 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการชำระเงินโดยจำเลยอื่นๆ ซึ่งบางส่วน คือ กลุ่มผู้กู้ของ GLH โดยเงินดังกล่าวมีอยู่แล้วในบัญชีของผู้กู้ซึ่งอยู่ภายใต้คำสั่งห้ามโอน

สำหรับดอกเบี้ยตามคำพิพากษาและค่าธรรมเนียมศาลต่างๆ บริษัทฯ จะดำเนินการจ่ายให้ทันทีที่ถึงกำหนดชำระและทราบจำนวนเงินที่แน่นอน

บริษัทฯ ขอแจ้งความคืบหน้าให้ทราบว่า เงินตามคำพิพากษาของศาลสิงคโปร์ในส่วนที่เหลือนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับ กลุ่มผู้กู้ของ GLH ถึงวิธีการชำระหนี้

ส่วนประเด็นการหักกลบลบหนี้กับคำพิพากษาคดีในไทยนั้น บริษัทฯ เชื่อว่าบริษัทฯ สามารถใช้การหักกลบลบหนี้เป็นส่วนหนึ่งของการชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ โดยปัจจุบัน JTA ยังไม่ยอมรับว่าการหักกลบลบหนี้ดังกล่าวเป็นการชำระหนี้ตามคำพิพากษา เนื่องจากคดีที่ไทยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าจะมีคำพิพากษาในวันที่ 9 มี.ค.2564

ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอศาลสิงคโปร์ชี้ถึงการมีผลของการหักกลบลบหนี้ดังกล่าว สำหรับเงินที่จ่ายไปแล้วจำนวน 37 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น บริษัทฯ ใช้เงินสดที่มีอยู่แล้วในการชำระหนี้ตามคำพิพากษา นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับอนุญาตจากศาลสิงคโปร์ให้สามารถขายหุ้น Bank JTrust Indonesia ของ GLH และโอนเงินจากการขายหุ้นดังกล่าวให้แก่ JTA ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการชำระเงินตามคำพิพากษา และ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2563 หุ้น Bank JTrust Indonesia มีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 279 ล้านบาท ในงบของ GL ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขายหุ้นของ Bank JTrust Indonesia ภายหลังการชำระหนี้ บริษัทฯ ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ