STGT กำไรปี 63 นิวไฮ 1.4 หมื่นลบ. ทะยาน 2,245% ปันผล 2 บาท

HoonSmart.com>> “ศรีตรังโกลฟส์” กำไรปี 63 แตะ 1.4 หมื่นล้านบาท ทะยาน 2,245% กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โควิด-19 หนุนความต้องการถุงมือยางทั่วโลกสูงขึ้น เตรียมขยายกำลังผลิต 80,000 ล้านชิ้นภายในปี 67 ชงผู้ถือหุ้นออกหุ้นกู้ 8,000 ล้านบาท พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตรา 2 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 12 เม.ย.นี้ จ่ายเงิน 28 เม.ย.64

บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2563 กำไรสุทธิ 14,400.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 5.94 บาท เพิ่มขึ้น ขึ้นร้อยละ 2,245.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 634.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.42 บาท

ปี 2563 บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 30,405.1 ล้านบาท เติบโต 153.5% จากงวดปีก่อนและมีกำไรสุทธิสูงสุดนับตั้งแต่การก่อตั้ง
บริษัทฯ มานานกว่า 30 ปี โดย STGT ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตถุงมือยางที่มีกำลังการผลิตใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีปริมาณการขายถุงมือยางในปี 2563 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27,965 ล้านชิ้น เติบโต 40.6% และได้ส่งถุงมือยางทางการแพทย์จำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากสาเหตุหลักมาจากราคาขายที่ได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นในทุกไตรมาส ทำให้ตลอดทั้งปี 2563 ราคาขายเฉลี่ย (ASP) เติบโตอย่างก้าวกระโดดอยู่ที่1,087 บาทต่อพันชิ้น (USD 34.93) ขยายตัว 80.3% จากงวดปีก่อน

ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญคือความต้องการในการบริโภคและกำลังซื้อที่แข็งแกร่งจากทั่วทุกมุมโลก จากการใช้ถุงมือยางเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) ทั้งในเชิงทางการแพทย์และ อุตสาหกรรม รวมทั้งจากกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ (New Group of Demand) ที่การ ระบาดของ COVID-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนการขยายกำลังการผลิตเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ 80,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2567 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการและคาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วกว่า แผนเดิมที่วางไว้อีก 2 ปีโดยภายในไตรมาส 1/64 บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากโรงงานสาขาสุราษฎร์ธานี (SR2) โรงงานแห่งใหม่ในจ.สุราษฎร์ธานี (SR3) ภายในไตรมาส 2/64 และโรงงานแห่งใหม่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภายในไตรมาส 3/64 โดยภายในสิ้นปี 2565 บริษัท ฯ จะมีกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 50,000 ล้านชิ้นต่อปีคิดเป็นอัตรา การเติบโตจากปี 2563 ที่ 54.5%

คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้จำนวนรวมไม่เกิน 8,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั่วไป และหรือชำระคืนเงินกู้ และหรือใช้ในการลงทุนของบริษัทฯ และบริษัทย่อย โดยจะนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ

นอกจากนี้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 2 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลวันที่ 16 เม.ย. 2564 ขึ้น XD วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล 12 เม.ย. 2564 และจ่ายเงิน 28 เม.ย. 2564