ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 61 จุด ผลการดำเนินงานบจ.หนุน

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 61 จุด  ผลการดำเนินงานของบริษัทออกมาดีเกินคาด ราคาน้ำมันดิบขึ้นต่อ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์(DJIA) วันที่ 10 ก.พ. 2564 ปิดที่ 31,437.80 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 61.97 จุด หรือ 0.20% นักลงทุนขานรับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยแจ้ง

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,909.88 จุด ลดลง 1.35 จุด, -0.03%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,972.53 จุด ลดลง 35.16 จุด, -0.25%

หุ้นทวิตเตอร์ เพิ่มขึ้น 13.2% จากกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้น Under Armour เพิ่มขึ้นกว่า 8% จากกำไรในไตรมาส 4 จากยอดขายออนไบน์ขยายตัวอย่างมากสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

จนถึงตอนนี้มากกว่า 60% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 รายงานผลการดำเนินงานแล้วซึ่ง  83% มีผลการประกอบการดีกว่าคาด

กระทรวงแรงงานรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.3% อ่อนตัวเล็กน้อยจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธันวาคม ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน ส่วนกระทรวงพาณิชย์เผย สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน จากที่ทรงตัวในเดือนพฤศจิกายน

นักวิเคราะห์จากโกลบอลท์ระบุว่า ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อกำลังเริ่มกลับอยู่ในความสนใจของนักลงทุน หากมีสัญญาณอะไรก็ตามที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะลดลงต่ำในระยะยาวจะมีทำให้ผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไป

นักลงทุนไม่ขานรับการออกมาย้ำว่า ธนาคารกลาง (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงาน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาของสมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก

นายพาวเวลล์กล่าวว่า นโยบายการเงินจะยังคงผ่อนคลายอย่างอดทน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ยังเจอความท้าทายจากตลาดแรงงาน การจ้างงานยังห่างไกลจากจุดที่ควรจะเป็น

นักวิเคราะห์มองว่า นายพาวเวลล์ย้ำจุดยืนของเฟดที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันจนว่าเงินเฟ้อจะขยายตัวต่อเนื่อง

นอกจากนี้หุ้นกลุ่มที่นำการปรับขึ้นของตลาดได้เปลี่ยนจากหุ้นเทคโนโลยีไปเป็นกลุ่มอื่น เช่น พลังงาน และธนาคาร โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 1.84% หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันหุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.72% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.97%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง โดย หุ้นแอมะซอนดอทคอม ลดลง 0.56% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.39% หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.46%

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นเดือนนี้ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 5% เพราะนักลงทุนยังคาดหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยพรรคเดโมแครตเปิดเผยรายละเอียดของมาตรการที่ครอบคลุมการแจกเงินประชาชนคนละ 1,400 ดอลลาร์

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางการซื้อขายแบบระมัดระวัง ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนเกาะติดการรายงานผลประกอบการที่ของบริษัทจดทะเบียนและสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

นางแองเจลา แมร์เคิลนายกรัฐมนตรีเตรียมประกาศขยายการล็อกดาวน์ออกไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม จากความกังวลการกลายพันธ์ของไวรัส

กำไรไตรมาส 4 ที่สูงกว่านักวิเคราะห์ ส่งผลให้หุ้นโซซิเอเต้ เจนเนอรัลในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 2.9% และ

หุ้นAdyen ในเนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 8.7% จากกำไรทั้งปี ที่สูงกว่านักวิเคราะห์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 409.47 จุด ลดลง 0.95 จุด, -0.23%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,524.36 จุด ลดลง 7.20 จุด, -0.11%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,670.80 จุด ลดลง 20.74 จุด, -0.36%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,932.97 จุด ลดลง 78.83 จุด, -0.56%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 58.68ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 38 เซนต์ปิดที่ 61.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
อ่านข่าว

ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดมากกว่าคาด