ฟินันเซีย ไซรัส แนะ “ซื้อ” BJC คาดกำไรไตรมาส 2 อยู่ที่ 1,374 ล้านบาท โต 38% ให้ราคาเป้าหมาย 61 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ออกบทวิเคราะห์แนวโน้มกำไร 2Q18 ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC ) โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,374 ล้านบาท เติบโต 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่ากำไรสุทธิปี 2018 ของ BJC จะอยู่ที่ 6,567 ล้านบาท เติบโต 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคงราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 61 บาท (DCF) ราคาหุ้นปรับลงจนมี Upside กว้างขึ้นเป็น 11% จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ”
ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ทั้งๆที่มีฝนตกค่อนข้างเยอะในช่วงเดือน เม.ย. แต่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. จึงคาด SSSG ของ BIGC จะทำได้ทรงตัว Y-Y แต่ด้วยการรับรู้รายได้สาขาใหม่ที่เปิดในปีก่อน และเปิดเพิ่ม 1 แห่งใน 2Q18 ที่สัตหีบ คาดรายได้ธุรกิจ Retail จะเติบโตราว 5% Y-Y
ส่วนธุรกิจ Packaging คาดรายได้เติบโตราว 6% Y-Y จากทั้งธุรกิจแก้วที่มีการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่แห่งที่ 4 เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Consumer คาดรายได้เติบโตราว 7% Y-Y ทั้งในส่วนของ Food และ Non-Food ส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากเทศการบอลโลก ด้านธุรกิจ Healthcare and Technical คาดรายได้จะโตราว 15% Y-Y กลับมาฟื้นตัวได้ดีหลังจากทรงตัวในไตรมาสก่อน
“2Q18 คาดว่ารายได้จากทั้ง 4 ธุรกิจจะเติบโตราว 5% Y-Y และอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 18.5% จาก 18.3% ในปีก่อน และคาดอัตราภาษีจ่ายจะลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ราว 23.5% จาก 25.6% ใน 1Q18”ฟินันเซีย ไซรัสระบุ
ทั้งนี้ หากกำไรสุทธิ 2Q18 เป็นไปตามคาด บริษัทจะมีกำไรสุทธิ 1H18 อยู่ที่ 2,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และแม้ปกติช่วง 3Q จะเป็น Low Season ของธุรกิจ แต่อาจเห็นกำไรสุทธิ 3Q18 ของ BJC เติบโตได้ จากการทยอยปรับโครงสร้างภาษีต่อเนื่อง น่าจะได้เห็นการลดลงของอัตราภาษีมากขึ้นในช่วง 2H18 และคาดกำไรจะเติบโตทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ ประกอบกับจะเริ่มใช้กำลังการผลิตโรงงานแก้วแห่งที่ 5
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของผลประกอบการของ BJC คือ ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อฟื้นตัวช้ากว่าคาด ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น การแข่งขันรุนแรงขึ้น และเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายหรือกฎระเบียบในต่างประเทศ