HoonSmart.com>> กองทรัสต์ CPNREIT เคาะราคาขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนสูงสุดไม่เกิน 19.50 บาท นักลงทุนรายย่อยซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม CPNREIT -GLANDRT เปิดจองซื้อ 8-10 ก.พ.นี้ ส่วนประชาชนทั่วไปเริ่ม 11 และ 15-16 ก.พ.นี้ ชูประมาณการเงินจ่ายผู้ถือหน่วยในปีแรกหลังเข้าลงทุนเพิ่มอยู่ที่ 1.3860 บาทต่อหน่วย ประมาณการอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่ 7.1%
น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบไฟลิ่งเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนของ CPNREIT และมีผลบังคับใช้แล้ว จึงเตรียมเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 355.56 ล้านหน่วย ที่ราคาเสนอขายสูงสุดไม่เกิน 19.50 บาทต่อหน่วย แก่ประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT
พร้อมทั้งผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ ณ วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม (Book Close) เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2563 ที่ผ่านมา โดยสามารถตรวจสอบสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมได้ที่ www.cpnreit.com และหากมีหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่เหลือจากการเสนอขายและจัดสรรแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และ GLANDRT จะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป
ภายหลังกองทรัสต์เข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้าทั้ง 2 โครงการ คือ เซ็นทรัลมารีนา และเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง ประมาณการเงินจ่ายผู้ถือหน่วยจะอยู่ที่ประมาณ 1.3860 บาทต่อหน่วย คิดเป็นประมาณการอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยอยู่ที่ประมาณ 7.1% (อ้างอิงจากประมาณการงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จสำหรับปี 2564 ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินได้มีการปรับปรุงสมมติฐานราคาหน่วยทรัสต์ CPNREIT ที่ออกและเสนอขายที่ราคาสูงสุด 19.50 บาท/หน่วย และจำนวนหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายที่ 355.56 ล้านหน่วย)
“หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ราคาหน่วยของ CPNREIT ได้ปรับตัวลงมามาก จึงน่าจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน หากสถานการณ์ COVID-19 กลับมาเป็นปกติ คาดว่าราคาหน่วยทรัสต์มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ผลการดำเนินงานกลับมาเป็นปกติ “น.ส.วีณา กล่าว
ทั้งนี้ ในการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม แบ่งเป็น (1) การจัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมประมาณ 75% ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมทั้งหมด หรือประมาณ 266.67 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT ตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ โดยกำหนดอัตราเสนอขายที่ 8.2967 หน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติมของ CPNREIT (2) จัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม CPNREIT ประมาณร้อยละ 25 ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่เสนอขายทั้งหมด หรือประมาณ 88.89 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ โดยกำหนดอัตราเสนอขายที่ 5.6225 หน่วยทรัสต์ของ GLANDRT ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติมของ CPNREIT และ (3) หากมีหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในส่วนที่เหลือจากการเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และ GLANDRT จะจัดสรรแก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering)
สำหรับประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์ของ CPNREIT และผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ที่มีสิทธิจองซื้อ จะเปิดให้จองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในวันที่ 8 – 9 ก.พ.2564 ระหว่างเวลาเปิดทำการ และวันที่ 10 ก.พ.2564 ตั้งแต่เวลาเปิดทำการถึงเวลา 15.30 น. ส่วนประชาชนทั่วไปเปิดให้จองซื้อในวันที่ 11 ก.พ.2564 และวันที่ 15 ก.พ.2564 ระหว่างเวลาเปิดทำการ และวันที่ 16 ก.พ.2564 ตั้งแต่เวลาเปิดทำการถึงเวลา 15.30 น. โดยจองซื้อได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ,สำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็งและธนาคารกรุงไทย โดยจองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 19.50 บาทต่อหน่วย โดยผู้จัดการกองทรัสต์จะแจ้งราคาเสนอขายสุดท้ายให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายจะกำหนดจากกระบวนการสำรวจความต้องการซื้อหน่วยทรัสต์จากผู้ลงทุนสถาบัน ที่เข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ และ/หรือนิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) โดยหากราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุด ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์จะคืนเงินส่วนต่างแก่ผู้จองซื้อทุกราย
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า CPNREIT นับเป็นกองทรัสต์ชั้นนำและมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ดี โดยการเข้าลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมของ CPNREIT จะเพิ่มความมั่นคงของผลการดำเนินงาน โดยเป็นการกระจายการลงทุนในโครงการศูนย์การค้าที่มีศักยภาพในทำเลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของ CPNREIT ในช่วงไตรมาส 3/2563 ที่ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 สะท้อนภาพรวมธุรกิจศูนย์การค้าที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว ภายหลังเปิดบริการศูนย์การค้าได้อีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ปัจจุบันภาครัฐสามารถเริ่มควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในหลายๆ จังหวัดได้ ตลอดจนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในบางจังหวัด คาดว่าจะส่งผลให้สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลงได้ในอนาคต ประกอบกับด้วยความเชี่ยวชาญของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ซึ่งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของ CPNREIT ที่มีประสบการณ์ในการบริหารศูนย์การค้ามายาวนานเกือบ 40 ปี ผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ มาอย่างมากมาย จะสามารถบริหารโครงการศูนย์การค้าที่เป็นทรัพย์สินของ CPNREIT ให้มีผลการดำเนินงานที่ดีและสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้
น.ส.พิรินี พริ้งศุลกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้าจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 5,672 ล้านบาท (ไม่รวมค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้อง) จากกลุ่มบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ของ CPNREIT ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2562 โดยทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2560-2562) และในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 ก.ย.2563 สูงมากกว่า 90% และมีรายได้สุทธิจากอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3 ปี 2563 สูงกว่าไตรมาส 2 ปี 2563 ประมาณ 100% สะท้อนผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวภายหลังจากการได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และการปิดศูนย์การค้าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ผ่านมา
สำหรับรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าวประกอบด้วย (1) โครงการเซ็นทรัลมารีนา โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า / เช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่าในงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 15 ปี (สิ้นสุดการเช่า 30 เม.ย.2578) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 14,793 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 ก.ย.2563 ประมาณ 97.2% และ (2) โครงการเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 21 ปี (สิ้นสุดการเช่า 16 ธ.ค.2584) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 15,863 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 ก.ย.2563 ประมาณ 93.4% ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติมจะแต่งตั้ง CPN เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ต่อไป
“CPN ในฐานะผู้ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ และจะเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการ ได้ให้การสนับสนุนกองทรัสต์ โดยปรับลดราคาทรัพย์สินที่ CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้เป็นมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 5,672 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าไม่เกิน 5,866 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการลงทุนสูงสุดที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ครั้งที่ 1/2562 และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนให้การออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จกลุ่ม CPN จะจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมอย่างน้อยตามสิทธิที่ได้รับการจัดสรรของตนในฐานะที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม และประสงค์จะให้กลุ่ม CPN เข้าจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในส่วนเหลือจากการจัดสรรให้ผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ตามรายละเอียดที่ CPN ได้มีการประกาศออกไป” น.ส.พิรินี กล่าว
ด้านราคาหน่วยทรัสต์ CPNREIT ณ เวลา 11.46 น. อยู่ที่ 19.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +0.53% มูลค่าการซื้อขาย 12.83 ล้านบาท