HoonSmart.com>>NEX ตามรอย EA แม่ทัพใหญ่ “สมโภชน์” การันตีคุณภาพ
ย้อนรอยหุ้นยักษ์ใหญ่พลังงานทดแทนเบอร์หนึ่งของเมืองไทย บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ภายใต้แม่ทัพใหญ่ “สมโภชน์ อาหุนัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA)
…จากจุดเริ่มต้น EA เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2556 โดยมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลัง 8 เมกะวัตต์ จังหวัดลพบุรี เตรียมนำเงินที่ระดมทุนได้ ไปขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าลำปาง และนครสวรรค์ ผลักดันกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 278 เมกะวัตต์ ในปี 2558
ราคาขายไอพีโอ EA ปี 2556 อยู่ที่ 5.50 บาท/หุ้น ก่อนที่ราคาจะค่อย ๆ ขยับสอดรับกับจำนวนเมกะวัตต์ไฟฟ้าในมือที่เพิ่มขึ้น
ปี 2558 ราคาหุ้น EA อยู่ที่ 22.50 บาท
…คล้อยหลังได้ไม่นาน EA ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( SET ) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้หุ้น EA ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบัน และกองทุนชั้นนำ
ปี 2560-2561 EA มีโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการ “หาดกังหัน” และ “หนุมาน” เข้ามาเติมพอร์ต หนุนกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์ม ขยับเป็น 664 เมกะวัตต์ ดันราคาหุ้น EA บินไต่ระดับแตะ 52 บาท ในปี 2562
…ปี 2564 ราคาหุ้น EA กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ท่ามกลางกระแส Green Energy และ EV ราคาหุ้น EA ขึ้นทดสอบจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ที่ 69.50 บาท/หุ้น
29 มกราคม 2564 ราคาหุ้น EA ปิดตลาดที่ 65 บาท/หุ้น
มาร์เก็ตแคปแซง “GPSC-BBL”
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) EA พุ่งแตะ 242,450 ล้านบาท แซง บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 220,643.82 ล้านบาท และสูงกว่าธนาคารกรุงเทพ (BBL ) มาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 216,653.67 ล้านบาท
ต้องบอกว่า…ฝีมือล้วน ๆ ภายใต้ผู้นำทัพที่ชื่อ “สมโภชน์ อาหุนัย” เขาเป็นคน “คิดใหญ่” และ “มองการณ์ไกล” อีกทั้งเป็นคนที่ “คิดได้-ทำได้- ไม่ได้โม้”
ที่ผ่านมา นักลงทุนอาจจะมองว่า ราคาหุ้น EA น่าจะถึง “ทางตัน” กับธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งทีมผู้บริหาร EA เข้าใจในเรื่องนี้ดี เพราะนับวันสัญญาขายไฟของ EA เริ่มถอยหลัง หากไม่มีโปรเจคใหม่ เข้ามาเติมพอร์ต ย่อมส่งผลกระทบต่อแนวโน้มรายได้ และกำไรของบริษัทแน่นอน และส่งผลกระทบต่อ “ราคาหุ้น” EA
เป็นที่มาซึ่งทำให้ “สมโภชน์” แม่ทัพใหญ่ EA ออกมาประกาศตัวในปี 2560 ผ่านการจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในจีนและไต้หวัน ทุ่มเงินลงทุนตั้งโรงงานแบตเตอรี่ในพื้นที่ EEC มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ผุดโปรเจคแบตเตอรี่สำรองไฟ 50 GWh ใหญ่สุดในโลก
และคาดว่า โรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟสแรก จะเริ่มผลิตเซลล์แบตเตอรี่ได้ปลายเดือนมี.ค. 2564 เพื่อป้อนให้กับธุรกิจในกลุ่มของบริษัทที่ประกอบไปด้วย รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถบัสไฟฟ้า (E Bus) และเรือโดยสารไฟฟ้า (E Ferry) ได้ทันที
EA เข้าสู่ S-Curve รอบใหม่ กับธุรกิจ EV
อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ประเมินว่า แนวโน้มรายได้ในปี 2564 คาดว่าจะเติบโต 20-30% เทียบปีที่ผ่านมา และปีนี้จะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจยานยนต์ไฟ้ฟ้าในสัดส่วน 20-30% มีสถานีชาร์จ 1,000 แห่งทั่วประเทศ และพร้อมให้บริการเรือไฟฟ้าครบ 27 ลำ ในช่วงปลายปี
ขณะที่รถบัสไฟฟ้าคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 2/64 กำลังผลิตปีละ 3,000 คัน สามารถผลิตเพิ่มได้เป็น 6,000 คันต่อปี โดยธุรกิจรถบัสไฟฟ้าปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาหลายร้อยคัน และหากขสมก. เปิดประมูลรถบัสไฟฟ้า 2,500 คัน บริษัทฯก็พร้อมเข้าร่วมประมูลทันที
NEX กำลังจะตามรอย EA
การประกาศเข้าร่วมลงทุนใน บริษัท เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ผ่านบริษัท อีเอ โมบิลิตี โฮลดิ้งส์ จำกัด บริษัทย่อยของ EA โดยเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 40% โดย สมโภชน์ อาหุนัย ,อมร ทรัพย์ทวีกุล และ วสุ กลมเกลี้ยง เข้าไปนั่งดำรงตำแหน่งกรรมการ ถือเป็นการ “ส่งสัญญาณ” เตรียมเข้ารุกธุรกิจ บัสไฟฟ้า เต็มเหนี่ยว
แล้วอะไรเป็นแรงดึงดูดให้ EA ตัดสินใจเข้าลงทุนใน NEX
คงหนีไม่พ้นการเป็นผู้นำธุรกิจบัสโดยสารของ NEX โดย “คณิสสร์ ศรีวชิระประภา” (เค่อ นั่ว หลิน) นั่งในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX และเขาเองก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ซึ่งเป็นตัว “การันตี” ถึงความสามารถ และ “คอนเน็คชั่น” ในการเจาะงานภาครัฐของ NEX
ยังไม่รวมถึงโอกาสในการขยายธุรกิจภาคเอกชน ในส่วนของ Bus Commercial ซึ่งมียักษ์ใหญ่ผลิตรถบัสหลายค่ายติดต่อมายัง NEX ให้เป็นตัวแทนนำเข้า และผลิต Bus Ev ป้อน ซึ่งตลาดถือว่าใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นรถบัส สำหรับขนส่งพนักงาน ขนส่งนักเรียน หรือบัสสำหรับรับนักท่องเที่ยว
ไม่แปลกใจที่จะเห็นราคาหุ้น NEX แม้จะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ จับใส่กรงขัง ติด Cash Balance ถึงวันที่ 1 ก.พ. 2564
แต่ราคาหุ้น NEX ยังสามารถรักษาระดับ 5 บาท ได้อย่างแข็งแกร่ง! ราวกับหุ้น EA ในช่วงไอพีโอปี 2556 ที่ราคาทรงตัวอยู่ในระดับ 5.50 บาท รอทะยานเหินฟ้า
ปัจจุบัน NEX เข้าถือหุ้น บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) ในสัดส่วน 45% เพื่อทำธุรกิจผลิตรถบัสไฟฟ้า และดีเซล รวมถึงรถมินิบัส และรถตู้ไฟฟฟ้าของ AAB
โดยบริษัทฯ ได้ประมาณการเบื้องต้นถึงผลประกอบการในปี 2564-2573 ของ ABB โดยคาดว่า จะมีรายได้อยู่ที่ 3,000-9,000 ล้านบาท และกำไรอยู่ในช่วงประมาณ 60-500 ล้านบาท
ปี 2564 คาดว่า จะมีรายได้ประมาณ 9,607.55 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 656.31 ล้านบาท
สิ่งที่ NEX คาดหวัง มาร์เก็ตแคป 20,000 ล้านบาท พร้อมมุ่งเข้าสู่ SET100 ของ NEX ภายในปี 64 คงไม่นานเกินรอ !!!!
