KTB ตั้งสำรองหนี้ต่ำสุดในระบบแบงก์ จับตาเร่งสปีดครึ่งปีหลัง นักวิเคราะห์ห่วงเอ็นพีแอลเพิ่ม บล.แลนด์ฯ ลดราคาเป้าหมายเหลือ 19.60 บาท ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลง
นักวิเคราะห์มีการทบทวนประมาณการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังประกาศกำไรสุทธิครึ่งปีแรกออกมา ในส่วนธนาคารกรุงไทย(KTB) มีมุมมองที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่คงประมาณการเดิมในปีนี้ มีเพียงบางแห่งปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ และราคาเป้าหมายลง หลังจากธนาคารกรุงไทยประกาศกำไรสุทธิ 7,711 ล้านบาท เติบโตถึง 139% ในไตรมาส 2/2561 สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองหนี้ลดลง 51% แต่กำไรจากการดำเนินงานลดลง จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพราะเพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี MRR ลง 0.50%
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังคงคำแนะนำ “ถือ” หลังปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 19.60 บาท จากการปรับลดสมมุติฐานอัตราผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น(ROE)ระยะยาว จาก 10% เหลือ 9.5% และอัตราการเติบโตระยะยาว จาก 6% เหลือ 5% ตามความกังวลคุณภาพสินทรัพย์และการตั้งสำรอง ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังไม่นิ่ง หนี้ที่ไม่ก่อใเกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ยังคงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 4.5% จาก 4.2% สิ้นปีก่อน จากกลุ่มลูกค้า SME ในบางอุตสาหกรรม ล่าสุดมี Coverage ratio ระดับ 124% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในระบบธนาคารพาณิชย์
บล.แลนด์ฯ ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรก สินเชื่อของธนาคารกรุงไทย โตเพียง 1.1% เป็นการเพิ่มขึ้นจากลูกค้าภาครัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และลูกค้ารายย่อย ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และ SME ยังหดตัวลงเล็กน้อย ปัจจุบัน KTB มีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อย 39% สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 35% สินเชื่อรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจอยู่ที่ 8% และสินเชื่อ SME 18%
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 19.30 บาทแม้ว่ากำไรสุทธิมากกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 31% และ 27% ตามลำดับ รวมกำไรครึ่งปีคิดเป็น 53% ของประมาณการทั้งปีของเรา แต่ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เนื่องจากยังคงมีความกังวลว่าธนาคารน่าจะมีการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น เพราะ NPL ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
บล.หยวนต้า แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสมที่ 19.50 บาท มองระยะกลางยังน่ากังวล
แนวโน้มการดำเนินงานของ KTB ในครึ่งปีหลังมีความไม่แน่นอน 2 ประเด็นคือ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเร่งตัว จากแผนลงทุน IT และค่าใช้จ่ายการตลาด ภายใต้วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มโรงสี และลานมันสำปะหลัง ประกอบกับ Coverage ratio ณ ปัจจุบันที่ 124% ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารที่ 140% KTB อาจเร่งตั้งสำรองเพิ่ม Coverage ratio ให้ใกล้เคียงกลุ่ม
บล.ทรีนีตี้ แนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 21 บาท สัดส่วน NPL เพิ่ม แต่เป็นการจัดชั้นเชิงคุณภาพ ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ไม่เพิ่ม ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 28,387 ล้านบาท