CIMBT เผยไตรมาส 2 กำไรสุทธิอยู่ที่ 191 ลดลง 45.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปีนี้กำไรลดลง 24.6% เหตุค่าใช้จ่ายเพิ่ม-ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 1%
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 191.23 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 356.64 ล้านบาท ลดลง 165.41 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.2% ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปีนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 360.11 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 477.84 ล้านบาท ลดลง 117.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.6%
CIMBT ระบุว่า งวด 6 เดือนแรกปี 2561 ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงาน 6,795.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 412.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.5% โดยมีสาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 258.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.2% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 89.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% และรายได้อื่นๆเพิ่มขึ้น 63.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.6%
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 13.3% หรือเพิ่มขึ้น 455 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและขาดทุนจากการขายสินทรัพย์รอการขาย ซึ่งทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อรายได้เพิ่มเป็น 57% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 53.6% รวมทั้งการสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 1% ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 6 เดือนของปี 2561 ลดลงเหลือ 360.1 ล้านบาท หรือลดลง 24.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 5.8% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2560 ที่มี NPLs อยู่ที่ 4.8% ของสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพของลูกค้าพาณิชย์ธนกิจในงวด 6 เดือนของปี 2651 และการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2560 อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม
ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 เงินกองทุนรวมของธนาคารอยู่ที่ 4.39 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ระดับ 17% โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้น 1 อยู่ที่ 12%