บลจ.เกียรตินาคินภัทรเปิดลิสต์ SSF-RMF ลดภาษี คาดศก.ฟื้นตัวปี 64

HoonSmart.com>> บลจ.เกียรตินาคินภัทร คาดเศรษฐกิจโลก-ไทยปี 64 ฟื้นตัว หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นหลายประเทศ วัคซีนคืบหน้า นโยบายโจ ไบเดนลดความผันผวนตลาดการลงทุน หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม พร้อมเปิดลิสต์กองทุน SSF- RMF เพิ่มทางเลือกการลงทุน ลดหย่อนภาษีสิ้นปี

ยุทธพล ลาภละมูล

นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคินภัทร จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.เกียรตินาคินภัทรมองว่าเศรษฐกิจโลกและไทย มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2564 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ดีขึ้นในหลายประเทศ การพัฒนาวัคซีนมีความคืบหน้าไปมากและคาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มผลิตใช้ได้ในช่วงต้นปี 2564 ส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นต่อตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและไทยในปี 2564

“นอกจากนี้ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่ โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง และพรรคเดโมแครทครองเสียงข้างมากในสภาล่าง ในขณะที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทำให้ตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของสหรัฐมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดสูงขึ้น ในขณะที่การผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการขึ้นภาษีหรือที่เป็นข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ จะทำได้ยากขึ้น และการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศกับนานาชาติในเชิงประนีประนอมมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มความผันผวนของตลาดการลงทุนลดลงในปีหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม” นายยุทธพล กล่าว

นายยุทธพล กล่าวว่า กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) นั้น เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมในระยะยาว โดยผู้ลงทุนได้มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในทรัพย์สินประเภทใดก็ได้ ซึ่งถือเป็นข้อดี เนื่องจากผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมถึงสามารถจัดสัดส่วนพอร์ตการลงทุนได้ตามเหมาะสมของแต่ละบุคคล บลจ.เกียรตินาคินภัทร จึงได้นำเสนอกองทุน SSF และ RMF ที่ครอบคลุมทุกทรัพย์สิน ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกผสมผสานจัดพอร์ตการลงทุนที่ตอบสนองต่อเป้าหมายการลงทุนระยะยาวได้

ปัจจุบัน บลจ.เกียรตินาคินภัทร นำเสนอกองทุน SSF และ RMF โดยแบ่งตามประเภททรัพย์สิน ดังนี้
กองทุนรวมตลาดเงิน (ความเสี่ยงต่ำ) : ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเงินฝากระยะสั้น
SSF: กองทุน KKP MP-SSF
RMF: กองทุน KKP MMRMF

กองทุนตราสารหนี้ (ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ) : ลงทุนในตราสารหน้าภาครัฐและเอกชน*
SSF: กองทุน KKP ACT FIXED-SSF
RMF: กองทุน INRMF

กองทุนผสม (ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) : ลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้และหุ้น โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับเปลี่ยนสัดส่วนตามสภาวะตลาด
RMF: กองทุน KKP BLRMF

กองทุนแบบ Asset Allocation (ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) : กระจายการลงทุนในทรัพย์สินต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ตราสารทุน ตราสารหนี้ ตลอดจนทรัพย์สินทางเลือก เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ และน้ำมัน โดยแต่ละกองทุน มีการลงทุนในทรัพย์สินแต่ละประเภทในสัดส่วนที่แตกต่างกัน

SSF: กองทุน KKP SG-AA Light-SSF, กองทุน HHP SG-AA-SSF และกองทุน KKP SG-AA Extra-SSF
RMF: กองทุน KKP SG-AA RMF

กองทุนตราสารทุนที่ลงทุนในประเทศ (ความเสี่ยงสูง) : ลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน*
SSF: กองทุน KKP ACT EQ-SSF และกองทุน KKP SET50 ESG-SSF
RMF: กองทุน KKP EQRMF

กองทุนตราสารทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (ความเสี่ยงสูง) : กองทุน Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมหลักในต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว*
SSF: กองทุน KKP PGE-H-SSF และกองทุน KKP TECH-H-SSF
RMF: กองทุน KKP GNP RMF-UH และกองทุน KKP GNP RMF-H

กองทุนรวมหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (ความเสี่ยงสูงมาก) : ลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์*
กองทุน KKP PROP-D-SSF
กองทุน KKP PROPRMF