HoonSmart.com>>หุ้นสหรัฐร่วงลง ดาวโจนส์ปิดติดลบ 271 จุด นักลงทุนปรับพอร์ตทำกำไร หลังจากตลาดเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 11.8% ดอลลาร์อ่อนสุดรอบ 2.5 ปี กองทุนทำกำไร ราคาน้ำมันลดลง แม้วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสได้ถึง 94.1% ก็ตาม พร้อมประกาศจะยื่นขออนุมัติขอใช้วัคซีนแบบฉุกเฉินต่อสำนักงานอาหารและยา (FDA) ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 30 พ.ย.2563 ที่ 29,638.64 จุด ลดลง 271.73 จุด หรือ 0.91% นักลงทุนปรับพอร์ตทำกำไร จากการปรับขึ้นในสัปดาห์ก่อน แม้บริษัทโมเดอร์นาประกาศจะยื่นขออนุมัติขอใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แบบฉุกเฉินต่อสำนักงานอาหารและยา (FDA) ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,621.63 จุด ลดลง 16.72 จุด, -0.46%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,198.74 จุด ลดลง 7.11 จุด, -0.06%
การวิเคราะห์ผลการทดสอบขั้นสุดท้ายยืนยันว่า วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสได้ถึง 94.1% โดยที่ไม่ปัญหาด้านความปลอดภัย และยังมีประสิทธิภาพถึง 100% ในการป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น
การยื่นขออนุมัติฉุกเฉินจะทำให้บริษัทโมเดอร์นา เป็นรายที่สองที่ผลิตวัคซีนต่อจากไฟเซอร์ซึ่งได้ยื่นขออนุมัติไปแล้ว
ด้านนายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าวัคซีนจากสองรายนี้จะมีใช้ก่อนคริสต์มาส
หุ้นโมเดอร์นาเพิ่มขึ้น 20.24%
ในเดือนพ.ย.ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 11.8% เป็นการปรับขึ้นรายเดือนดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 1987 ส่วนดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 10.8% และ 11.8% ตามลำดับ ปรับขึ้นรายเดือนดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์สหรัฐอเมริกา (The National Association of Realtors -NAR) รายงานยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales ) เดือนต.ค.ลดลง 1.1% จากเดือนก.ย. สวนทางกับการเพิ่มขึ้น 1% ที่นักวิเคราะห์คาด อย่างไรก็ตามการทำสัญญายังสูงกว่าเดือนต.ค.ปีที่แล้วถึง 20% เป็นผลจากดอกเบี้ยต่ำและความต้องการบ้านเดี่ยวในชานเมือง
ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์อ่อนค่าสุดรอบ 2.5 ปี หลังจากความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงโดยรวมดีขึ้น และนักลงทุนจับตาทีมเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดนที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัส รวมทั้งความคาดหวังว่าธนาคารกลาง(เฟด)จะยังคงใช้มาตรการหรือเพิ่มการกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกปรับพอร์ตด้วยการขายดอลลาร์ออกมา
เมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์ (Dollar index ดัชนีที่วัดความแข็งของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินต่าง ๆ) ลดลง 0.2% มาที่ 91.558 ส่วนเงินยูโรแข็งค่าไปที่ 1.20 แข็งสุดรอบ 3 เดือน ขณะที่ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินหยวนออฟชอร์ที่ 6.5727
หุ้นไอเอชเอส มาร์กิต เพิ่มขึ้น 7.49% หลัง S&P 500 จะซื้อกิจการในมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่สุดของปี 2020
หุ้นกลุ่มเดินทางลดลง 3.6% หุ้นเชฟรอนลดลง 4.5% ส่งผลให้กลุ่มพลังงานลดลง 5.4% เป็นการลดลงรายวันมากสุดรับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา
หุ้นเมซี อิงค์และหุ้นโคลห์ คอร์ป ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ต่างลดลง 4% หลังจากมีลูกค้าในวันขอบคุณพระเจ้าน้อยกว่าคาดน้อยก
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรปตามการถอนตัวหรือ Brexit โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษระบุว่า การเจรจาเข้าสู่ช่วงสำคัญ แต่ตลาดยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นรายเดือนดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1986
โดยหุ้นสายการบินปรับตัวเพิ่มกว่า 45% ในรอบเดือนนี้ นักลงทุนขานรับการประกาศ จะยื่นขออนุมัติขอใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แบบฉุกเฉินต่อสำนักงานอาหารและยา (FDA) ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป บริษัทโมเดอร์นา หลังผลการทดสอบขั้นสุดท้ายยืนยันว่า วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสได้ถึง 94.1%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 389.36 จุด ลดลง 3.87 จุด , -0.98%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,266.19 จุด ลดลง 101.39 จุด, -1.59%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,518.55 จุด ลดลง 79.63 จุด,-1.42%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,291.16 จุด ลดลง 44.52 จุด , -0.33%
หุ้นเอบีเอ็นแอมโรลดลง 9% หลังประกาศลดพนักงานราว 3,000 รายภายในปี 2024 เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 45.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 59 เซนต์ปิดที่ 47.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล