HoonSmart.com>>เปิดชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ดีเฮ้าส์พัฒนา พบ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ โผล่ถือหุ้นอันดับ 7 จำนวน 5 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.60% ราคาหุ้นวันแรกปิดที่ 0.61 บาท +1.67% บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาทในปี 68 “ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ “ตั้งราคาขาย 3.42 บาท นักลงทุนสะสมหุ้น SCGP-SO หนุนราคาขยับ
บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE) นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 26 ต.ค. แจ้งรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก พบ “เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงศ์ ” นักลงทุนรายใหญ่ ได้หุ้นไอพีโอ จำนวน 5 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.60 % ส่งผลให้ “เสี่ยยักษ์” ถือหุ้น 0.60 %
สำหรับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ DHOUSE ณ วันที่ 22 ต.ค. 2563 ประเภท IPO ประกอบด้วย 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มนายอรรถ เลิศรุ้งพร ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 52.11 % , กลุ่มนายชาญวิทย์ แก้ววิศิษฏ์ ถือ 22.04 %
ด้านการซื้อขายหุ้น DHOUSE วันแรก ราคาเปิดที่ 0.67 บาท แจกกำไร 11% ก่อนขึ้นไปสูงสุดที่ 0.72 บาท และปิดที่ 0.61 บาท +0.01 หรือ+1.67%
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์จะเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี (2564-2568) เดินหน้าแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ เช่น นครราชสีมา, อุดรธานี, อุบลราชธานี เป็นต้น ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อขาย 4 โครงการ มูลค่ารวม 1,063 ล้านบาท อยู่ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เป็นหลัก
แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน 141.82 ล้านบาท โดย 6 เดือน มีรายได้รวม 46.78 ล้านบาท ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 53-55%, อัตรากำไรสุทธิ 22-28% ณ สิ้นไตรมาส 2/63 บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 26.74 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่องใน ไตรมาส 3 และ 4 อีกทั้งยังมีสินค้าพร้อมขาย มูลค่ารวม 113.60 ล้านบาท และสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 442.56 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่ดินรองรับการพัฒนาในจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 4 แปลง รวมพื้นที่ 97 ไร่ 32.10 ตารางวา มีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 528.89 ล้านบาท และมีมูลค่าตามราคาประเมินอยู่ที่ 755.27 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการพัฒนาโครงการได้อีก 2-3 โครงการ
ด้านบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรครอบคลุมทั่วโลก โดยนายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 120 ล้านหุ้น กำหนดราคาขายหุ้นละ 3.42 บาท คิดเป็น P/E 27.40 เท่า มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28-30 ต.ค.นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาด mai ในวันที่ 5 พ.ย. นี้
สำหรับหุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ในวันที่ 2 ของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ราคาเริ่มฟื้นตัว โดยปิดที่ 35.50 บาท +1.43% จากวันแรกปิดที่ IPO ระดับ 35 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7,082 ล้านบาท เพราะวันที่ 28 ต.ค.นี้ หุ้นจะเข้าสู่การคำนวณของดัชนี 50 และธุรกิจมีแนวโน้มเติบโต จึงเป้นที่ต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะสถาบันในประเทศ
นอกจากนี้หุ้นสยามราชธานี ( SO ) ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ระหว่างวันขึ้นไปสูงสุด 6.30 บาท และปิดที่ 6.10 บาท +0.20 บาทหรือ 3.39% แต่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคา IPO ที่ 6.50 บาท แม้ว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีก็ตาม