HoonSmart.com>>บล.เอเซียพลัสคาดหุ้นปลายปียังคงผันผวน ลงไปแถว 1,212 จุด แนะเก็บหุ้นกำไรโต-ปันผลดี 6 ตัว MTC-ASK-DOHOME-INSET-NOBLE-STGT ส่วนปีหน้าพบกัน 1,450-1,526 จุด ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศแนะหุ้นกลุ่มเทคโนฯ-สินค้าบริโภค แนะจัดพอร์ตหุ้นไทย 35% หุ้นต่างประเทศ 15% ตลาดเงิน 20% ตราสารหนี้ 25% และตราสารลงทุนอื่นๆ 5%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยว่า หุ้นไทยมีปัจจัยเสี่ยง คาดว่ายังคงผันผวนจนถึงเดือนพ.ย.หากปรับลดลงถึงระดับ 1,212 จุด เป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก คาดดัชนีสิ้นปี 63 ที่ 1,300 จุด และสิ้นปี 64 ที่ 1,450-1,526 จุด
แนวโน้มตลาดในปีหน้าได้ปัจจัยหนุนจากสภาพคล่องที่มีอยู่มาก เงินฝากในระบบธนาคารสูงถึง 15.57 ล้านล้านบาท เศรษฐกิจฟื้นตัวประมาณ 3-4% จากปี 63 ที่คาดว่าหดตัว -8.4% กำไรต่อหุ้นบริษัทจดทะเบียน (EPS) ฟื้นตัวขึ้นมา 25% อยู่ที่ 72.51 บาทต่อหุ้น จากปีนี้คาด 56.65 บาทต่อหุ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะหุ้นที่มีการเติบโตที่ดีทั้งในครึ่งปีแรก และครึ่งปีหลัง รวมถึงการจ่ายปันผลดี ให้หุ้นเด่น 6 ตัว ได้แก่ ASK ที่ราคาเหมาะสม 25 บาท ,DOHOME ที่ราคา 15 บาท ,INSET ที่ราคา 4.18 บาท ,MTC ที่ราคา 57 บาท ,NOBLE ที่ราคา 22.70 บาท และ STGT ที่ราคา 100 บาทในทางตรงกันข้าม หุ้นที่ราคาเกินมูลค่าพื้นฐานไปมาก ต้องระมัดระวังการซื้อขาย เช่น MINT และ LPN
ส่วนสถานการณ์การชุมนุม วันที่ 14 ต.ค นี้ คาดว่าจะไม่มีความรุนแร แต่อาจจะกดดันให้ดัชนีมีโอกาสปรับลดลง และเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทย รวมถึงกดดันค่าเงินบาทอ่อนค่าด้วย สำหรับกการเลือกตั้งสหรัฐฯ หากโจ ไบเดน ชนะ นโยบายการขึ้นภาษีนิติบุคคล จะกดดันตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 64 ของสหรัฐลดลงถึง 10-12% ทำให้ P/E ดูแพงขึ้น กดดันความน่าสนใจ ทำให้มีเม็ดเงินไหลมาสู่ตลาดอื่นมากขึ้น
ด้านนายภาดร สุขสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การลงทุนและผลิตภัณฑ์ บล.เอเซีย พลัส ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า การสร้างโอกาสในการทำกำไรในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีและสินค้าบริโภค ที่มีการเติบโตที่ดี การกระจายพอร์ตเป็นสิ่งที่จำเป็นในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังมีความท้าทาย แนะนำจัดพอร์ต หุ้นไทยสัดส่วน 35% หุ้นต่างประเทศ 15% ตลาดเงิน 20% ตราสารหนี้ 25% และตราสารลงทุนอื่นๆ 5%