HoonSmart.com>>แบงก์ใหญ่ยังตกเป็นเป้าขายต่อ พื้นฐานอ่อนแอ สินเชื่อเดือนส.ค.ทรงตัว KKP เพิ่มมากสุด BBL วูบหนักสุด ธปท.รอผลสอบกรณี 4 ธนาคาร ออกตัวทำงานร่วมกับ ปปง.ใกล้ชิด ทุกธุรกรรมที่ถูกรายงานไม่ได้หมายความว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายเสมอไป
วันที่ 23 ก.ย. 2563 นักลงทุนยังกดราคาหุ้นใหญ่ไม่เลิก นำโดย KBANK ร่วง 2.94% ปิดที่ 74.25 บาท และ BBL ปิดที่ 95.75 บาท ลดลง -1.79% ทำให้ดัชนีกลุ่มธนาคารปิดที่ 248.25 จุด-2จุดหรือ -0.80%
นักวิเคราะห์ระบุว่าหุ้นธนาคารยังมีแรงเทขายต่อเนื่อง เพราะปัจจัยพื้นฐานยังไม่แข็งแรง ด้านการดำเนินธุรกิจในเดือนส.ค. สินเชื่อยังคงขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) สินเชื่อเพิ่มมากที่สุด 1.48% และธนาคารกรุงเทพ (BBL) สินเชื่อหดตัวมากที่สุดถึง 1.36% คิดเป็นเม็ดเงิน 25,824 ล้านบาท คงเหลือสินเชื่อคงค้าง 1,879,955 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุว่า สินเชื่อเดือน ส.ค.+0.11% จากเดือนก.ค. โดยการเติบโตหลักๆมาจากกลุ่มสินเชื่อรายย่อย (สินเชื่อบ้านและรถยนต์) ส่วน SME และ สินเชื่อธุรกิจทรงตัว ระยะสั้นคาดกลุ่มธนาคารจะถูกกดดันหลัง 4 ธนาคารมีชื่อเกี่ยวข้องการโอนเงินผิดกฎหมาย
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขอให้รอการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ที่ผ่านมาธปท. ได้กำกับดูแลและตรวจสอบสถาบันการเงิน ให้มีกระบวนการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (AML/CPTF) ตั้งแต่ขั้นตอนการทำความรู้จักตัวตนลูกค้า (KYC/CDD) การตรวจสอบและการรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำหนดอย่างเคร่งครัด โดย ธปท. และ ปปง. ประสานงานกันเพื่อกำกับดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
“ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกรรมที่ถูกรายงานใน STR จะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายเสมอไป จึงต้องตรวจสอบก่อนที่จะสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่” นายจาตุรงค์กล่าว