ดาวโจนส์ปิดลบ 132 จุด หุ้นเทคโนโลยีร่วง สงครามการค้ายังรบกวนตลาดต่อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 26 มิถุนายน ที่ 24,174.82 จุด ลดลง 132.36 จุด หรือ 0.54% นักลงทุนยังคงกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าเพราะมาตรการภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ารวม 34 พันล้านดอลลาร์จะมีผลในวันศุกร์นี้ ทำให้คาดการณ์ว่าจะได้รับการตอบโต้จากจีน ทำให้เกิดแรงเทขายในท้ายตลาด ลบล้างการเพิ่มขึ้นของดัชนีจากการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนปรับตัวลง โดยหุ้นแคทเธอพิลลาร์ลดลง 1.8% หุ้นโบอิ้งลดลง 09%
หุ้นแอปเปิ้ลลดลง 1.5% หุ้นไมครอนลดลง 5.5% จากรายงานข่าวของบลูมเบิร์กว่าศาลในประเทศจีนมีคำสั่งห้ามขายชิปของไมครอนในจีนชั่วคราว หุ้นเฟซบุ๊คลดลง 2.4% จากรายงานของเดอะ วอชิงตันโพสต์ว่า จะมีการขยายการสอบสวนกรณีที่แคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการเมือง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊ก
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,713.22 จุด ลดลง 13.49 จุด, -0.49%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,502.67 จุด ลดลง 65.01 จุด ,-0.86%
ทางด้านตลาดยุโรปกลับมาปิดบวก จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในเยอรมนี คลี่คลายหลังจากมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล สามารถบรรลุข้อตกลงกับนายฮอร์ส ซีโฮเฟอร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการจัดการผู้อพยพของเยอรมนี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,593.29 จุด เพิ่มขึ้น 45.44 จุด, +0.60%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 379.81 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด, +0,,81%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,316.77 จุด เพิ่มขึ้น 40.01 จุด,+0.76%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,349.14 จุด เพิ่มขึ้น 110.97 จุด ,+0.91%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 74.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์หลังจากที่เพิ่มขึ้นแตะระดับเหนือ 75 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 74.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์