HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 160 จุด ดัชนี Nasdaq นิวไฮ นักลงทุนเกาะติดผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รอผลการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ราคาน้ำมันบวกต่อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ที่ 26,828.47 จุด เพิ่มขึ้น 164.07 จุด หรือ 0.62% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยกลุ่มเทคโนโลยีกลับมานำตลาดอีกครั้ง ขณะที่มีแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน อสังหาริมทรัพย์และสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งอ่อนตัวไปก่อนหน้านี้
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,306.51 จุด เพิ่มขึ้น 11.90 จุด, +0.36%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,941.17 จุด เพิ่มขึ้น 38.37 จุด, +0.35
ดัชนี Nasdaq ทำสถิติสูงสุดเป็นครั้งที่ 30 ของปี 2020 ซึ่งสูงกว่าระดับสูงสุดทั้งหมดในปี 2019 และทำลายสถิติ 29 ครั้งของปี 2018
ตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรก หลังกระทรวงพาณิชย์เผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 6.2% สูงกว่า 4.6% ที่นักวิเคราะห์คาด และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเดือนที่สอง
นักลงทุนยังคงเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียน และรอผลของการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ระหว่างพรรครีพับลิกัน กับพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาว ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มว่าจะตกลงกันได้ในเร็วๆนี้
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เจรจาพบกับนายชัค ชูมเอร์ ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสมาชิกและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะทำงานทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ แต่นางแนนซีให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า ไม่คาดว่าจะสรุปกันได้ในสัปดาห์นี้ เพราะมีอีกหลายประเด็นที่ยังค้างคา แม้จะมีสัญญาณว่าเห็นพ้องกันเรื่องการแจกเงิน 1,200 ดอลลาร์ ขณะที่การช่วยเหลือคนตกงานยังไม่มีข้อตกลง
นักลงทุนกระจายการลงทุน ส่งผลให้กลุ่มอื่นในตลาดปรับขึ้น นอกเหนือจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซที่มองว่ามีความแข็งแกร่งต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ยังกังวลต่อข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ หลังจากที่การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานยังไม่ลดลง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ที่ชะลอลงก็มีส่วนหนุนตลาดบางส่วน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่ำกว่า 50,000 รายเป็นวันที่สอง
หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง 1.5% นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ไม่คัดค้านการเข้าซื้อกิจการ แต่หากการซื้อกิจการไม่เกิดขึ้นภายในวันที่ 15 กันยายนก็จะสั่งแบนการให้บริการของ TikTok ในสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเฮลธ์แคร์ลดลง 1.3% ส่วนกลุ่มน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น 2.4% หลังจากที่ช่วงแรกปรับตัวขึ้นจากข้อมูล PMI ของประเทศหลักๆที่ฟื้นตัว แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ไม่สดใสจากบริษัทใหญ่ ฉุดให้ตลาดปรับตัวลดลง แม้ดัชนีราคาผู้ผลิต(Producer Price) เดือนมิถุนายนกลับมาขยายตัวหลังจากที่ลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และยังเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด โดยเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อน และสูงกว่า 0.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด เป็นผลจากราคาพลังงานเพิ่มขึ้น 3.1%
หุ้นบีพีเพิ่มขึ้น 6.5% แม้ไตรมาสสองขาดทุนและลดอัตราการจ่ายเงินปันผล
หุ้นเบเยอร์ลดลง 2.4% จากขาดทุน 9.5 พันล้านยูโรไตรมาสสอง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 363.39 จุด ลดลง 0.25 จุด -0.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,036.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด , +0.05%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิด 4,889.52 จุด เพิ่มขึ้น 13.59 จุด, +0.28%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,600.87 จุด ลดลง 46.11 จุด, -0.36%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 41.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว