BJCHI ส่งมอบโปรเจ๊กต์ LINDE ล็อตสุดท้าย โบรกฯ คาด Q2 ขาดทุนค่าเงินฉุดงบ

HoonSmart.com>> “บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี” ส่งมอบบิ๊กโปรเจ๊กต์ล็อตสุดท้ายของโครงการ LINDE ตามนัด ท่ามกลางโควิด-19 พร้อมเดินหน้าประมูลโครงการใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท มั่นใจหนุนผลงานปีนี้โตก้าวกระโดดจากแบ็กล็อกตุนไว้ 4.2 พันล้านบาท ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาด BJCHI ขาดทุนค่าเงินไตรมาส 2/63 ฉุดงบ มองฟื้นตัวครึ่งปีหลัง แบ็กล็อกแน่น แนะรอซื้อเก็งกำไร เป้า 2.30 บาท

หยัง เจิน ลี

นายหยัง เจิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาด Covid-19 ที่ต่างประเทศยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถทำงานให้ประสบความสำเร็จ โดยการส่งมอบงานประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ชุดที่สองของโครงการ LINDE ให้แก่ลูกค้าได้ตรงต่อเวลา ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์และแสดงให้ถึงศักยภาพของ BJCHI ในการดำเนินโครงการให้แก่ลูกค้าเป็นอย่างดี

“การที่บริษัทฯสามารถส่งมอบโครงการขนาดใหญ่ได้ตามกำหนด ถือเป็นบทพิสูจน์ และแสดงให้ถึงศักยภาพของ BJCHI และจากการที่ลูกค้าพึงพอใจกับผลงาน ทำให้บริษัทฯมีโอกาสในดำเนินโครงการที่มีศักยภาพอื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้” นายหยัง กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์ในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่และการส่งมอบงานที่ตรงต่อเวลา จนสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าอย่างมากนั้น จะช่วยทำให้บริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานโครงการขนาดใหญ่จากลูกค้าต่อไปในอนาคต โดยในปัจจุบัน BJCHI มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 4.2 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงระหว่างปี 2563-2564

สำหรับสงครามการค้าที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทางบริษัทฯ มองว่า สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้พัฒนาโครงการขนาดใหญ่หลายแห่ง มองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น รวมทั้งประเทศไทย จนทำให้ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการติดต่อเพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ในหลากหลายอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BJCHI กล่าวว่า บริษัทฯยังคงได้รับเชิญให้เข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน อุตสาหกรรมก๊าซ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ปัจจุบัน ลูกค้าบางราย กำลังมองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่สามารถเป็นคู่ค้ากันในระยะยาว ดังนั้น จึงเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่บริษัทฯ จะสามารถชนะการประมูลบางโครงการในอนาคตอันใกล้นี้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาด ไตรมาส 2/63 BJCHI คาดไตรมาส 2/63 จะพลิกมาขาดทุนเท่ากับ 80 ล้านบาท เทียบกับกำไร 109 ล้านบาท ในไตรมาสก่อน และ 12 ล้านบาท ในปีก่อน ถูกกระทบจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 95 ล้านบาท หากหักรายการนี้จะมีกำไรปกติเล็กน้อย 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่น่าผิดหวัง เนื่องจากยอดรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้คาดจะลดลงเหลือ 530 ล้านบาท (-26%QoQ, -31%YoY) เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้การตรวจงานลำบาก รวมถึงการแพร่ระบาดในต่างประเทศทำให้ส่งแบบล่าช้า

นอกจากนี้ในไตรมาสนี้คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับลดลงเหลือ 10% จาก 15.7% ในไตรมาสก่อน และ 19.6% ในปีก่อน จากต้นทุนส่วนเพิ่ม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดจะปรับลดลงสู่ระดับปกติประมาณ 50 ล้านบาท หลังจากที่ไตรมาสก่อนมีการบันทึกค่าระวางที่สูงถึง 90 ล้านบาท ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารพุ่งขึ้นเป็น 151 ล้านบาท

ด้าน Backlog ปัจจุบันสูงสุดในรอบ 5 ปีเท่ากับ 4.2 พันล้านบาท อนาคตกำไรเจรจาและมีโอกาสจะได้งานเพิ่มหลายโครงการ คาดผลประกอบการครึ่งหลังปี 2563 จะฟื้นตัวดีขึ้น BJCHI มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีหนี้เงินกู้ ในขณะที่มีเงินสดในมือสูง มีอัตราเงินปันผลตอบแทนดี 5.2% แนะนำ TRADING BUY ช่วงอ่อนตัวไตรมาส 2/63 จะพลิกมาขาดทุน เป้าหมาย 2.30 บาท