บลจ.กรุงศรี เผยกลยุทธ์บริหารแบบ Bottom Up เน้นการบริหารแบบแอคทีฟเชิงวิเคราะห์เจาะลึกในด้านมูลค่าแท้จริงของหลักทรัพย์และการให้น้ำหนักการลงทุนอย่างเหมาะสม หนุน 2 กองทุนคว้ารางวัลยอดเยี่ยมจากมอร์นิ่งสตาร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำการบริหารกองทุนหุ้น
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “กองทุนหุ้นภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.กรุงศรี มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ล่าสุดคว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปีจำนวน 2 กองทุนจากงานประกาศรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม Morningstar Thailand Fund Awards 2018 ประกอบด้วยกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิค (KFDYNAMIC) จากรางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก และกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFEQRMF) จากรางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยม ประเภทตราสารทุน”
“กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิค (KFDYNAMIC) เน้นลงทุนในหุ้น 15-20 บริษัทที่คัดสรรแล้วว่ามีปัจจัยพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตสูง โดยไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นหุ้นประเภทใด ดังนั้น กองทุนจึงสามารถลงทุนได้ทั้งในหุ้นขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ หุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายปันผลดี หรือหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และสามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้ตามสถานการณ์ เช่น หากผู้จัดการกองทุนมองว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง ก็จะปรับพอร์ตไปเน้นถือหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง หรือในจังหวะที่ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง ก็อาจปรับพอร์ตไปเน้นหุ้นที่มีความผันผวนต่ำและจ่ายเงินปันผลสูงมากขึ้น เป็นต้น”
สำหรับกองทุน KFDYNAMIC มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 40.67% ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 18.70%และผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ 10.65% ขณะที่ดัชนีชี้วัดอยู่ที่17.31% 8.84% และ8.16% ตามลำดับ และอยู่ในกลุ่มกองทุนหุ้นที่มีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุด (Top Quartile) อีกด้วย” (ข้อมูล : Morningstar Thailand ณ 31 ธ.ค. 60 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
“กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFEQRMF) เน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูงเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากส่วนต่างของมูลค่าหุ้น โดยหุ้นที่คัดสรรมาลงทุนในกองทุนนี้เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มมีผลประกอบการเติบโตสูงกว่าตลาด โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดของหุ้น กองทุนKFEQRMF มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 31.71% ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 12.94% และผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ 9.78% ในขณะที่ดัชนีชี้วัดอยู่ที่ 17.31% 8.84% และ8.16% ตามลำดับ” (ข้อมูล : Morningstar Thailand ณ 31 ธ.ค. 60 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
อย่างไรก็ตามบลจ.กรุงศรี มีกองทุนหุ้นที่หลากหลายให้เลือกลงทุน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และให้มีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนด้วย เช่น ถ้าผู้ที่ชื่นชอบกลยุทธ์การลงทุนของกองทุน KFDYNAMIC และต้องการรับเงินปันผลก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิคปันผล (KFDNM-D)ได้ หรือหากต้องการลงทุนในกองทุนที่มีสไตล์การบริหารใกล้เคียงกัน แต่มีการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์จำนวนมากกว่า ก็อาจเลือกลงทุนในกองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์ ซึ่งมีทั้งแบบจ่ายเงินปันผล (KFSTAR-D) และไม่จ่ายเงินปันผล(KFTSTAR-A) ซึ่งทีมผู้จัดการกองทุนมีความสามารถในการบริหารพอร์ตการลงทุนในหุ้นทุกประเภทได้เป็นอย่างดี และเป็นทีมที่บริหารกองทุนของเราต่อเนื่องโดยเฉลี่ยยาวนานกว่า 12 ปี (ข้อมูล :บลจ.กรุงศรี ณ 28 ก.พ. 61) โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบ Bottom Up เน้นการบริหารแบบแอคทีฟเชิงวิเคราะห์เจาะลึกในด้านมูลค่าแท้จริงของหลักทรัพย์ และการให้น้ำหนักการลงทุนอย่างเหมาะสม ส่งผลให้กองทุนภายใต้การบริหารจัดการมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของการบริหารกองทุนไม่ได้อยู่ที่การสร้างผลตอบแทนสูงที่สุดเพียงช่วงสั้นๆ แต่ให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม
“สำหรับมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจการลงทุนนั้น บลจ. กรุงศรี คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้สูงกว่าในปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว การส่งออก การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเติบโตของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน ทั้งนี้ ตลาดอาจมีความผันผวนจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการดำเนินนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯอยู่บ้าง” น.ส.ศิริพร กล่าว