HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 150 จุด เฟดขยายขอบเขตซื้อตราสารหนี้เอกชน ตลาดหุ้นยุโรปร่วงวิตกการระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ด้านราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 2%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ที่ 25,763.16 จุด เพิ่มขึ้น 157.62 จุด หรือ 0.62% จากที่ร่วงลงแรงในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลาง(เฟด)ประกาศมาตรการเพิ่มเติมที่จะสนับสนุนตลาดท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนจากแรงซื้อกลับส่วนหนึ่งบนราคาที่ลดลงก่อนหน้า แต่ยังเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเพราะมีแรงขายทำกำไรและมีความกังวลมากขึ้น
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,066.59 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด, +0.83%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,726.02 จุด เพิ่มขึ้น 137.21 จุด, +1.43%
ในช่วงแรกของการซื้อขายดัชนี DJIA ร่วงลงไปกว่า 760 จุดดัชนี S&P500ลดลง 2.5% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.9 จากความกังวลต่อการกลับมาระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐที่กำลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ทั้งอลาบามา แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และนอร์ทแคโรไลนา เท็กซัส และผู้เชี่ยวชาญมองว่าการระบาดของไวรัสอาจจะควบคุมไม่ได้ ประกอบกับจีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่แบบกลุ่มก้อนที่เพิ่มขึ้นมากภายในวันเดียวทำให้ต้องสั่งปิดตลาดและชุมชนใกล้เคียง
นอกจากนี้ข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนพฤษภาคมของจีนขยายตัว 4.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่า 5% ที่นักวิเคราะห์คาด ทำให้ประเมินว่าเศรษฐกิจอาจจะใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว
ตลาดฟื้นตัวหลังเฟดประกาศว่าจะขยายขอบเขตโครงการซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ตั้งวงเงิน 750 พันล้านดอลลาร์ให้ครอบคลุมตราสารหนี้รายบริษัทให้กว้างขึ้น จากเดิมที่กำหนดว่าจะซื้อตราสารหนี้ในตลาดแรกเท่านั้น แต่ครั้งนี้จะขยายการซื้อตราสารหนี้เข้าไปในตลาดรองด้วย รวมทั้งยังจะลดข้อจำกัดที่ใช้บังคับกับผู้กู้ยืม
การประกาศของเฟดแสดงให้เห็นว่าเฟดยังคงสนับสนุนตลาดสินเชื่อ ขณะที่ยังมีการระบาดของไวรัส
เฟดสาขานิวยอร์กเผย ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index)เดือนมิถุนายนฟื้นตัว 48 จุดมาที่ระดับ -0.2 สูงกว่า -35.0 ที่นักวิเคราะห์ ซึ่งสะท้อนภาคการผลิตที่เกี่ยวข้องกับวัฎจักรเศรษฐกิจสูงนั้นกำลังฟื้นตัว
หุ้นซูม วีดิโอ คอมมูนิเคชั่นส์ เพิ่มขึ้น 8.88% จากการมองว่า จะมีการใช้แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมทางไกลมากขึ้น เพื่อเลี่ยงการออกนอกบ้านหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นในจีนและสหรัฐฯ
หุ้นที่ได้รับผลดีจากการเปิดเศรษฐกิจปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อการระบาดรอบสองของไวรัสเพิ่มขึ้น โดย หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์ลดลง 0.24% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 1.66% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ลดลง 2.7% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ลดลง 0.57% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ลดลง 2.49%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากความวิตกต่อการระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในเอเชียและสหรัฐฯท่ามกลางการผ่อนคลายล็อกดาวน์ หลังจากมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐของสหรัฐฯ และจีน
นอกจากนี้นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์การระบาดของไวรัสหลังยุโรปได้ยกเลิกห้ามเดินทางข้ามประเทศภายในยุโรป และอังกฤษได้อนุญาตให้ธุรกิจที่ไม่จำเป็นกลับมาเปิดให้บริการ แต่ยังให้คงมาตรการรักษาระยะห่าง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,064.70 จุด ลดลง 40.48 จุด, -0.66%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 353.09 จุด ลดลง 0.97 จุด, -0.27%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,815.72 จุด ลดลง 23.54 จุด, -0.49%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,911.35 จุด ลดลง 37.93 จุด, -0.32%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 37.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 2.6% ปิดที่ 39.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว

