HoonSmart.com>>”ดับบลิวเอชเอฯ” ประกาศผลงานไตรมาส 1/2563 รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุน 1,278 ล้านบาท กำไรสุทธิ 99 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานปกติ 197 ล้านบาท เติบโต 26% “ จรีพร จารุกรสกุล ” มั่นใจครึ่งปีหลังธุรกิจสดใส นักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยกลับมาลงทุน เพิ่มยอดขายที่ดิน ยืนเป้าขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ในไตรมาส 4 การเงินแกร่งแถมเงินปันผล
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 99 ล้านบาท รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า 1,278 ล้านบาท โดยเป็นผลกำไรจากการดำเนินงานปกติ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ไม่รวมผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน และกำไรจากการรับรู้รายได้รอตัดบัญชีสำหรับทรัพย์สินที่ขายเข้ากอง WHABT ในปี 2558 ที่มีการรับรู้ในไตรมาส 1/2562 แนวโน้มบรรยากาศการลงทุนจะกลับมาเป็นปกติในครึ่งปีหลัง ช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องให้ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ
ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจโลจิสติกส์และโรงงานให้เช่ายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีรายได้จากจากการดำเนินงานปกติ 286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากการขยายตัวของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม E-Commerce และ Consumer ซึ่งได้รับประโยชน์โดยตรงจากสถานการณ์โควิด-19 มีความต้องการใช้พื้นที่เช่าคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ามากขึ้น บริษัทฯ จึงยังคงเป้าหมายพื้นที่เช่าคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าในปี 2563 เพิ่มขึ้น 2.5 แสนตารางเมตร รวมพื้นที่ที่อยู่ในการบริหารทั้งสิ้นประมาณ 2.6 ล้านตารางเมตร
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยอดการโอนที่ดินชะลอตัว รับรู้รายได้จากการโอนที่ดิน 245 ล้านบาท และมียอดขายที่ดินใหม่อีก 51 ไร่ แม้ว่าลูกค้าจะเดินทางมาไม่ได้ แต่ยังคงแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกระแสกลุ่มนักลงทุนชาวจีน ญี่ปุ่น และอเมริกาจะย้ายการลงทุนออกจากประเทศจีน มายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ประเทศไทยยังมีศักยภาพและความแข็งแกร่งในฐานะศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาค และจุดแข็งของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอฯ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
“กลุ่มลูกค้าจีนที่เข้ามาลงทุนนิคมฯของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากกว่า 50% ของยอดขายที่ดิน เริ่มทยอยกลับมาฟื้นตัว และนโยบายของทางการจีน ที่เตรียมอัดมาตรการกระตุ้นการลงทุน และเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังจากเกิดวิกฤตในครั้งนี้ ส่งผลเชิงบวกกับหลายประเทศที่เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ในการพึ่งพาวัตถุดิบจากจีน บริษัทฯ คาดว่าในเร็วๆนี้ จะเริ่มเห็นความชัดเจนการเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินอีกครั้ง และเชื่อว่าภาพรวมยอดขายที่ดินจะกลับมาเติบโตตามแผนในครึ่งหลังของปีนี้ ” นางสาวจรีพรกล่าว
ธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภค บริษัทมีรายได้รวม 534 ล้านบาท ชะลอตัวลงประมาณ 5% เนื่องจากภาครัฐขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมให้ลดการใช้น้ำลง 10% เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และการจัดหาแหล่งน้ำ บริษัทฯ ได้ตัดสินใจเร่งการลงทุนในโครงการ Reclaimed Water จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขึ้นมาเป็น 30,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เสริมความมั่นคงในการจัดหาแหล่งน้ำ และช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอีกด้วย แนวโน้มยอดขายน้ำจะดีขึ้นหลังสถานการณ์ภัยแล้ง
สำหรับโครงการ Duang River Water Treatment Project ที่ประเทศเวียดนาม มีการขยายปริมาณการขายน้ำและการต่อขยายท่อส่งน้ำที่ล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมาตรการการควบคุมสถานการณ์โควิด 19 ของประเทศเวียดนาม ส่งผลให้การดำเนินงานขาดทุน แต่ยอดขายจะเติบโตสูงขึ้น หลังโควิดในเวียดนามเริ่มคลี่คลาย
ธุรกิจไฟฟ้า กลุ่มบริษัทฯรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากการดำเนินงานจากการลงทุนบริษัทร่วมและบริษัทร่วมค้าไม่นับรวมขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 56 % อยู่ที่ 245 ล้านบาท จากกำลังการผลิตที่เติบโตของโรงไฟฟ้า SPP ยอดขายลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมอยู่ที่ประมาณ 570 เมกะวัตต์ นอกจากนี้โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน มีรายได้จากค่าความพร้อมจ่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผน
ขณะที่ธุรกิจดิจิทัลมีการขยายตัว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากการนำระบบไอทีเข้ามาการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการติดตั้งไฟเบอร์ออพติก ครอบคลุมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 10 แห่ง ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล รองรับกลุ่มลูกค้าที่จะขยายตัวในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมแผนการขายทรัพย์สินให้กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (กองทรัสต์ HREIT) คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2563
นางสาวจรีพร กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจในความแข็งแรงทางการเงิน โดยเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2563 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี2562 เพิ่มอีกหุ้นละ 0.0535 บาท รวมที่จ่ายไปเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.0815 บาทแล้ว รวมปันผลทั้งสิ้น 0.1350 บาทต่อหุ้น