ในช่วงนี้ตลาดหุ้นผันผวนสูงมาก เมื่อก้าวเข้าสู่เดือนพ.ค. สถิติ” Sell in May and Go Away” ให้ขายในเดือนพ.ค. แล้วออกจากตลาดไปให้ไกล ก็มาหลอกหลอนนักลงทุนทันที เพียงสองวันแรกดัชนีร่วงไปมากกว่า 3% มีลักษณะเหมือนว่าจะถอยไปตั้งหลักที่ 1,200 จุด อีกครั้ง นักลงทุนจะทำอย่างไรดี ขายแล้วกอดเงินสด รอจังหวะกระแทกลงแรงๆ แล้วค่อยกลับมาซื้อ แต่จะมีโอกาสไหม ? หรือมีแนวทางอื่นให้เลือก…
บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัสแนะนำ Pairs Trade หนึ่งในกลยุทธ์หลบความผันผวนของตลาดในช่วงนี้ โดยนักลงทุนใช้เครื่องมือในตลาดอนุพันธ์กับตลาดหุ้นมาเลือกหุ้นที่มักจะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ แต่รอบนี้ไม่เป็นเช่นนั้น จึงมองเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี
ฝ่ายวิจัยบล.เอเซียพลัสประเมินว่า เข้าสู่ช่วงเดือน พ.ค. 2563 ตลาดหุ้นมีความผันผวนมากขึ้น จนทำให้หุ้นหลายๆบริษัท ที่มีความเกี่ยวข้องกันทางธุรกิจ เช่น เป็นหุ้นแม่-หุ้นลูกกัน หรืออยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ปกติราคาหุ้นมักจะมีแนวโน้มเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกันเสมอ คือมีค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) สูง แต่เมื่อราคาหุ้นเริ่มวิ่งสวนทางกัน นักลงทุนสามารถนำกลยุทธ์ Pairs Trade มาใช้ลงทุนได้ โดยการซื้อหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform กว่า ในระยะสั้น พร้อมกับขายช็อต (Short Sale) หุ้นที่คาดว่าจะ Underperform กว่า ด้วยมูลค่าที่เท่ากัน เพื่อรอจังหวะปิดสถานะทำกำไรด้วยสถานะตรงข้าม เมื่อราคาหุ้นเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
ในช่วงนี้ฝ่ายวิจัยฯ พบหุ้นที่น่าทำ Pairs Trade ได้ 2 คู่
คู่ที่ 1 แนะนำ ซื้อ (Long) BTSGIF พร้อมกับขายชอร์ต (Short Sell) BTS หุ้นทั้ง 2 ตัวมีค่า Correlation ช่วงที่ผ่านมาสูงถึง 75% แต่ปัจจุบันราคาหุ้น BTS ปรับตัวขึ้นมาแรงถึง 32% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะกลับมา Underperform เมื่อเทียบกับหุ้น BTSGIF ที่ราคาปรับตัวขึ้นเพียง 8.4% เท่านั้น ขณะที่ BTSGIF มีรายได้มาจากค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ได้รับปัจจัยบวกจากการเริ่มกลับมาเปิดเมืองมากกว่า BTS ที่ถือ BTSGIF สัดส่วน 33.33%
นอกจากนี้จากสถิติการทำ Back Test ระหว่าง (Long) หุ้น BTSGIF พร้อมกับ (Short) หุ้น BTS ย้อนหลัง 1 ปี พบว่า มีการทำ Pairs Trade ทั้งหมด 6 ครั้ง โดยให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 4 ครั้ง สามารถคาดหวังผลตอบแทนได้ราว 7%
ส่วนคู่ที่ 2 แนะนำ ซื้อ (Long) BCP พร้อมกับขายชอร์ต (Short Sell) BCPG หุ้นทั้ง 2 ตัวมี Correlation ในช่วงที่ผ่านมา สูงถึง 80% แต่ปัจจุบันราคาหุ้น BCPG ปรับตัวขึ้นมาแรงกว่า 22% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะกลับมา Underperform เมื่อเทียบกับหุ้นแม่ อย่าง BCP (ถือหุ้น BCPG อยู่ 70%) ที่ราคาปรับตัวขึ้นเพียง 6% เท่านั้น ในช่วงเวลาเดียวกัน (ยัง Laggard ราคาหุ้นลูกอยู่มาก)
จากสถิติการทำ Back Test ระหว่าง (Long) หุ้น BCP พร้อมกับ (Short) หุ้น BCPG ย้อนหลัง 1 ปี พบว่า มีการทำ Pairs Trade ทั้งหมด 5 ครั้ง โดยให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 4 ครั้ง และมีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 4.8%
เชื่อว่ากลยุทธ์ Pairs Trade น่าจะช่วยลดความเสี่ยงพร้อมกับสร้างโอกาสในการทำกำไรได้ดีในยามที่ตลาดผันผวน
อย่างไรก็ตามหากราคาหุ้นทั้ง 2 เคลื่อนไหวผิดทางเกินกว่า 5% แนะนำให้ตัดขาดทุนออกไปก่อน