BJCHI คว้างานตปท. 2 โครงการมูลค่า 750 ลบ.หนุนแบ็กล็อกพุ่งรอบ 5 ปี

HoonSmart.com>> “บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี” เซ็นสัญญารับงานใหม่ในต่างประเทศ 2 โครงการ มูลค่ารวม 750 ล้านบาท CEO มั่นใจหนุนผลงานปีนี้เติบโตโดดเด่นจากปีก่อน ด้าน backlog พุ่งแตะ 4,700 ล้านบาท สูงสุดรอบ 5 ปี ด้านบล.เอเซีย พลัส แนะ “ซื้อ” มองแนวโน้มกำไร Q1/63 แกร่ง ราคาเป้าหมาย 2.33 บาท

บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) แจ้งว่า บริษัทได้มีการลงนามในสัญญาว่าจ้างฉบับใหม่รวม 2 โครงการ มูลค่าสัญญาทั้ง 2 โครงการรวมประมาณ 750 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ Pipe Spools for CRISP ในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และโครงการ Modular Packages Skids for Gas Turbine ในโรงไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศบราซิล

ทั้ง 2 โครงการเป็นงานเกี่ยวกับการจัดหาและแปรรูปงานโครงสร้างเหล็ก งานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ งานประกอบและเชื่อมผลิตภัณฑ์ท่อเหล็ก โดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 – ก.ค.2564

นายหยัง เจิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก จากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้ดำเนินโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับงานใหม่จำนวน 2 โครงการ ดังกล่าว ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2563-2564

สำหรับโครงการ CRSIP Pipe Spool ในอุตสาหกรรมน้ำมัน และปิโตรเคมี ซึ่งเป็นงานในส่วนที่เพิ่มเติมโครงการเดิมที่กำลังอยู่ หลังจากที่ลูกค้าพึงพอใจกับงานที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบัน จึงทำให้บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มเติมจากโครงการดังกล่าว

ส่วนโครงการ Modular Packages Skids for Gas Turbine ในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า จากลูกค้ารายใหม่ ที่มองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการทำงานในอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เหมืองแร่ ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บริษัทฯ มีคุณสมบัติตามที่ลูกค้ารายนี้มองหา จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจในการดำเนินโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ ลูกค้ารายใหม่ ยังต้องการมองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่สามารถเป็นคู่ค้ากันในระยะยาว ดังนั้น จึงเชื่อว่า บริษัทฯ มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานเพิ่มเติมจากลูกค้ารายนี้ในอนาคต

“การที่บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่น และไว้วางใจบริษัทฯ จนทำให้ปัจจุบัน ปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มมาอยู่ที่ 4,700 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 5 ปี โดยบริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการในปี 2563 จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รวมทั้งบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่า 16,000 ล้านบาท ขณะที่วิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดนั้น ทำให้ผู้พัฒนาโครงการจำนวนมากได้มองหา บริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่อยู่นอกประเทศจีน ที่อาจมีความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดอีก สถานการณ์ดังกล่าว คาดว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่บริษัทฯ ในการเข้าไปรับงานมากขึ้นในปีหน้า” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว

ด้านบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส มองแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/63 น่าจะออกมาแข็งแกร่งมาก สนับสนุนด้วยรายได้จากงานก่อสร้างที่เพิ่มขื้นตามปริมาณงานในมือที่รอส่งมอบและกำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่มีนัยสำคัญจากการถือครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า

บล.เอเซีย พลัส แนะนำ ซื้อ ประเมิน FV อิง PBV 1 เท่า ให้ราคาเหมาะสม 2.33 บาท Upside 42% อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.3%