บลจ.กสิกรไทย ปันผลกองทุนหุ้นสหรัฐ-จีน “K-USXNDQ-A(D) และ K-CHINA” มูลค่ากว่า 171 ล้านบาท ชูตลาดหุ้นจีนยังน่าสนใจ ด้านกองทุน K-CHINA ให้ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลัง 21.88% มองหุ้นสหรัฐแพง
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศ จำนวน 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USXNDQ-A(D)) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2561 – 31 พ.ค.2561 และกองทุนเปิดเค ไชน่าหุ้นทุน (K-CHINA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ก.ย.2560 – 31 พ.ค.2561 โดยทั้ง 2 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 พ.ค.2561 และจ่ายเงินปันผลพร้อมกัน 14 มิ.ย.2561 รวมมูลค่ากว่า 171 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน K-USXNDQ-A (D) ในช่วง 3 เดือนย้อนหลังให้ผลอบแทน 1.62% ใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 2.02% และในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทน 18.26% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 18.12% (ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 61) ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมทั้งในระยะสั้น และระยะยาวให้ผลตอบแทนที่ดีโดดเด่นใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากกองทุนหลักใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรับ (passive) ที่มุ่งหวังให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิง
ส่วนมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ บลจ.กสิกรไทยมองว่าระดับราคาหุ้นสหรัฐฯ ถือว่าค่อนข้างแพงและซื้อขายอยู่ในระดับที่ใกล้เต็มมูลค่า ขณะที่หุ้นในกลุ่มไอที ซึ่งเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ที่กองทุนลงทุน มีการเติบโตสูงกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในภาพรวม จึงคาดว่าในระยะสั้นอาจมีความผันผวนตามตลาดหุ้นสหรัฐฯในภาพรวมเช่นกัน ทั้งนี้ผลประชุมของเฟดล่าสุดเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 bps ขึ้นมาอยู่ที่ 1.75-2.00% เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาพรวมยังเติบโตต่อเนื่อง โดยตลาดแรงงานเติบโตแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังขยับเข้าใกล้เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การดำเนินนโยบายทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะจีนที่มีท่าทีตอบโต้นโยบายดังกล่าวของสหรัฐฯ
ด้านผลการดำเนินงานกองทุน K-CHINA ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน กองทุนให้ผลตอบแทน 5.48% ใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 5.42% และในช่วง 1 ปีให้ผลตอบแทน 21.88% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 26.84% (ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 61) ทั้งนี้บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน โดยมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ขยายตัวจากนโยบายเส้นทางสายไหม One Belt, One Road ของภาครัฐ
ขณะที่แผนการปฏิรูปประเทศยังเป็นไปตามคาด และสภาพคล่องในระบบที่มีสูงจากการอัดฉีดเงินของรัฐบาลเข้าสู่ระบบผ่านการลดสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวชัดเจน นอกจากนี้ปัจจัยบวกจากการที่ MSCI ได้รวมหุ้นจีน A share เข้าไปคำนวณในดัชนีตลาดเกิดใหม่และคาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาด A-Share มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อาจดึงดูดเงินทุนถึงราว 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ตลาดหุ้นจีนในช่วง 10 ปีข้างหน้า
นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ หรือต้องการปรับพอร์ตให้สอดรับกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย แนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นจีน เนื่องจากระดับราคาหุ้นที่ซื้อขายในระดับถูกกว่าประเทศอื่นในเอเชียและภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะหุ้น H share ที่น่าสนใจกว่าหุ้น A Share เนื่องจากซื้อขายในราคา discount จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนที่พร้อมลงทุนในระยะยาว อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯและการโต้ตอบจากจีนที่จะต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง