เฟดลงมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75-2.00% ครั้งที่ 2 ของปี ส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง และปีหน้าอีก 3 ครั้ง เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่ง คาดเงินเฟ้อ 2.1% ปีนี้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
การปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว นับเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนมี.ค. และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่เฟดเริ่มวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558
นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค. ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้
ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง
แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป ขณะที่ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยังคงมีความสมดุล
เฟดมีการปรับเปลี่ยนการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์เพื่อแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการปรับตัวดีขึ้น โดยเฟดระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจ”ได้ปรับตัวขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง” จากเดิมที่ใช้คำว่า”ได้ปรับตัวขึ้นปานกลาง”ในการประชุมเดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงาน”ได้ลดลง” จากเดิมที่ใช้คำว่า”อยู่ในระดับต่ำ” และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน”ได้ปรับตัวขึ้น” จากเดิมที่ใช้คำว่า”ได้ชะลอตัวลง”
นอกจากนั้นเฟดปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.8% จากเดิมที่ 2.7% และคงคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าที่ระดับ 2.4% ส่วนการขยายตัวในปี 2563 ยังคงอยู่ที่ระดับ 2% ขณะที่อัตราการขยายตัวในระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8%
เฟดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 2.38% ภายในสิ้นปีนี้ โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.25% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค. และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปีหน้าสู่ระดับ 3.13% โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ส่วนอัตราดอกเบี้ยในปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.38% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม และระบุว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2.9% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม
ขณะเดียวกัน เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อสู่ระดับ 2.10% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.9% ส่วนในปีหน้า คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2.1% จากเดิมที่ระดับ 2.0% ส่วนในปี 2563 คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ 2.1% และระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 2.0%
ในด้านตัวเลขอัตราการว่างงานนั้น เฟดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.6% ในปีนี้ จากเดิมที่ 3.8% และปรับตัวลงต่อไปในปีหน้าสู่ระดับ 3.5% จากเดิมที่ 3.6% ส่วนตัวเลขในปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% จากเดิมที่ 3.6% ขณะที่ตัวเลขว่างงานระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 4.5%
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนพ.ค.บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน ส่วนการขยายตัวของการจ้างงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น โดยเฉลี่ยมีความแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานได้ปรับตัวลดลง ข้อมูลที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า อัตราการขยายตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเริ่มปรับตัวขึ้น ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง