HoonSmart.com>> กองทรัสต์ CPNREIT เคาะราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์ 32.00 บาทต่อหน่วย ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิของ CPNREIT และ GLANDRT เริ่มจองซื้อวันที่ 13 และ 16 – 19 มี.ค.นี้ ส่วนประชาชนทั่วไปเปิดจองซื้อตั้งแต่วันที่ 20 และ 23 – 24 มี.ค. นี้ ชูประมาณการเงินจ่ายผู้ถือหน่วยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.7369 บาทต่อหน่วยคิดเป็นอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยประมาณ 5.4%
น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท พร้อมเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 665.62 ล้านหน่วย โดยล่าสุดได้กำหนดราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์ที่ 32.00 บาทต่อหน่วย โดยในวันที่ 13 และ 16 – 19 มี.ค.2563 รวมระยะเวลา 5 วัน จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิของ CPNREIT และผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิของ GLANDRT จองซื้อหน่วยทรัสต์ได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) และธนาคารกรุงไทย
ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 20 และ 23 – 24 มี.ค2563 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ธนาคารกรุงไทยและบล. ไทยพาณิชย์
ทั้งนี้ CPNREIT เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในสถานการณ์ในช่วงนี้ที่ตลาดทุนมีความผันผวนอย่างมาก โดยที่ผ่านมาเห็นได้ว่า CPNREIT เป็นกองทรัสต์ที่มีการเติบโตของรายได้และทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ และเติบโตอย่างมั่นคง (Defensive Investment) ในช่วงตลอดระยะเวลาเกือบ 15 ปี นับตั้งแต่เป็นกอง Property Fund โดยผ่านวิกฤตต่างๆ ในอดีตมาได้เป็นอย่างดี
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมครั้งนี้คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ได้รับสิทธิของ CPNREIT และ GLANDRT และประชาชนทั่วไป ที่ต้องการลงทุนในทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและมีการเติบโตในระยะยาว โดย CPNREIT ถือเป็นกองทรัสต์ชั้นนำขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่มีทรัพย์สินคุณภาพดี และเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำและตลาดทุนมีความผันผวนอย่างมาก
ทั้งนี้ ด้วยสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน จะทำให้กองทรัสต์มีแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมที่ต่ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนในการเข้าลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติม โดยการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมที่มีคุณภาพและศักยภาพการเติบโต อีกทั้งมีทำเลที่ตั้งกระจายไปในหลากหลายจังหวัดนี้ คาดว่าจะสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและกระจายแหล่งรายได้ของกองทรัสต์ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าประมาณการเงินจ่ายผู้ถือหน่วยทรัสต์ตั้งแต่ 1 เม.ย.2563 – 31 มี.ค.2564 หลังจาก CPNREIT เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมแล้ว จะเท่ากับประมาณ 1.7369 บาทต่อหน่วย (อ้างอิงจากประมาณการงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จตามสมมติฐานที่ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและที่ปรึกษาทางการเงินได้พิจารณาปรับปรุงสมมติฐาน ได้แก่ จำนวนหน่วยทรัสต์และราคาหน่วยทรัสต์ที่คาดว่าจะออกและเสนอขายในครั้งนี้) ซึ่งคิดเป็นประมาณการอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยที่ประมาณ 5.4%
ทั้งนี้ ประมาณการเงินจ่ายผู้ถือหน่วยดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นจากกรณีที่ไม่มีการเข้าลงทุนเพิ่มเติมซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 1.7059 บาทต่อหน่วย (อ้างอิงจากประมาณการงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จตามสมมติฐานที่ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต)
น.ส.นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ในฐานะ Sponsor และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของ CPNREIT กล่าวว่า CPN ในฐานะ Sponsor และผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ พร้อมให้การสนับสนุนการเติบโตของ CPNREIT อย่างเต็มที่ โดยในการเพิ่มทุนของ CPNREIT ในครั้งนี้ CPN พร้อมจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมและสนับสนุนการเพิ่มทุนครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จอย่างดี โดยเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน CPNREIT เป็นทางเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว
น.ส.พิรินี พริ้งศุลกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินคุณภาพ 6 แห่งในหลากหลายทำเลที่มีศักยภาพ ประกอบด้วยโครงการศูนย์การค้า 4 แห่ง และโครงการอาคารสำนักงาน 2 แห่ง พร้อมทั้งต่ออายุสัญญาโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 โดยจะชำระค่าเช่าสำหรับการต่ออายุโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 ในวันที่เริ่มการเช่าในเดือนสิงหาคม 2568 โดยแหล่งเงินทุนสำหรับการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในครั้งนี้ ซึ่งมีมูลค่าการระดมทุนประมาณ 33,000 ล้านบาท จะมาจาก 1) การเพิ่มทุนของ CPNREIT โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 665.62 ล้านหน่วย และ 2) เงินกู้ธนาคาร และ/หรือสถาบันการเงิน และ/หรือการออกและเสนอขายหุ้นกู้