HoonSmart.com>> FETCO เล็งเสนอคลัง นำ LTF กลับมาสร้างเม็ดเงินลงทุนระยะกลาง-ยาว พยุงตลาดหุ้นช่วงเกิดวิกฤต ขณะที่ตลาดหุ้นรีบาวด์ กองทุน-สถาบัน ช้อนหุ้นใหญ่ราคาถูก ดัน SET พุ่ง 28 จุด ด้านกบข.แนะจังหวะดีเก็บหุ้นลงทุนยาว ขณะที่บลจ.กสิกรไทยหั่นเป้าดัชนีสิ้นปีเหลือ 1,550-1600 จุด เซ่นโควิด-19 ฉุดกำไรบจ. ส่วนระยะยาวมองบวกหุ้นไทย
บรรยากาศตลาดหุ้นวันที่ 27 ก.พ. 63 มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ ที่ราคาปรับตัวลงหนักช่วงต้นสัปดาห์นี้ เช่น หุ้นแบงก์ , สื่อสาร และพลังงาน ดันดัชนีที่ปรับตัวลง พลิกกลับขึ้นมาเป็นบวก ระหว่างวันสูงสุด 31 จุด ที่ระดับ 1,397.69 จุด , ต่ำสุดที่ 1,355.63 จุด – 10.78 จุด และปิดที่ 1,395.08 จุด เพิ่มขึ้น 28.67 จุด มูลค่าซื้อขาย 74,552.75 ล้านบาท
กองทุน-สถาบัน กลับมาซื้อสุทธิ 2,149 ล้านบาท , ต่างชาติขายสุทธิ 110 ล้านบาท ส่วนพอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 2,875 ล้านบาท
นายไพบูลย์ นรินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวในงานสัมมนา “ส่องหุ้นไทย 2020 : ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงมากจากปัจจัยระยะสั้น ฉุดความมั่นใจการลงทุน ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเผชิญแรงขายต่อเนื่องจากนักลงทุนไทยและนักลงทุนระยะยาวในประเทศ มีจำนวนลดลง ทำให้ตลาดหุ้นขาดแรงหนุน
สิ่งที่ FETCO ต้องการผลักดัน คือ ส่งเสริมนักลงทุนระยะกลาง-ยาว มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งของตลาดหุ้น ซึ่งเงินทุนระยะสั้น ที่มีเมื่อเกิดปัจจัยลบ เงินระยะสั้นจะไหลออกจากตลาดทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงเร็ว โดยสภาตลาดทุน เตรียมเสนอกระทรวงการคลัง พิจารณาทบทวนการนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF ) กลับมา เพราะมีบทบาทสำคัญช่วยพยุงหุ้นไทยยามวิกฤตได้
ขณะที่นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) มองว่า ตลาดหุ้นร่วงแรงสะท้อนความกังวลนักลงทุนต่อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด กด P/E ตลาดหุ้นไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังรอบ 5 ปี ชี้จังหวะเหมาะสมเก็บหุ้นลงทุนระยะยาว
ด้านน.ส.ธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย ได้หั่นเป้าหุ้นไทยสิ้นปีลงเหลือ 1,550-1,600 จุด จากเดิมมอง 1,700 จุด หลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในหลายประเทศมากขึ้น จึงปรับคาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2563 ลงเหลือ 4-6%
“บลจ.กสิกรไทย ประเมินว่าหากสถานการณ์ดังกล่าวสามารถควบคุมได้ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค และการท่องเที่ยวของภาครัฐที่จะทยอยประกาศออกมา รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนและการเบิกจ่ายงบประมาณจากภาครัฐ ประกอบกับสภาพคล่องที่มีอยู่ในระดับสูงจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะสามารถปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าระดับปัจุบันได้ โดยระดับดัชนีปัจจุบันสะท้อน Forward PE ที่ 15 เท่า และ Dividend Yield ที่ประมาณ 3.7%” น.ส.ธิดาศิริ กล่าว
สำหรับผู้ลงทุนที่รับความผันผวนได้ และสามารถลงทุนได้ในระยะยาว จังหวะนี้ถือเป็นโอกาสทยอยเข้าลงทุนในกองทุนหุ้นไทย เนื่องจาก บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะยาว โดยแนะนำ กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KEQRMF) เน้นหุ้นพื้นฐานดีกระจายหลายธุรกิจ และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส (K-FIXEDPLUS) ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว
อ่านข่าว
บลจ.กสิกรฯ หั่นเป้าหุ้นสิ้นปีเหลือ 1,550-1,600 จุดเซ่นโควิด-19
กบข.ชี้จังหวะทยอยซื้อหุ้นลงทุนระยะยาวหลังโควิด-19 กด P/E ต่ำ 5 ปี
