HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดร่วงต่ออีกเกือบ 900 จุด สหรัฐฯเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ร้ายแรงจากไวรัสโควิด-19 ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ลดลง 1.53 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2563 ที่ 27,081.36 จุด ลดลง 879.44 จุด หรือ 3.15% ลดลงเป็นวันที่สอง หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) เตือนชาวอเมริกันให้เตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 ในจีนต่อการค้าและการเดินทางโลก
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,128.21 จุด ลดลง 97.68 จุด, -3.03%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,965.61 จุด ดิ่งลง 255.67 จุด, -2.77%
ตลาดลดลงต่อเนื่องจากวันจันทร์ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไป 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสองวัน นักลงทุนกังวลต่อการขาดตอนของห่วงโซ่การผลิต เพราะโรงงานในจีนยังไม่กลับมาเปิดการผลิตเต็มที่ หลังจากหยุดยาวด้วยคำสั่งปิดหลายเมืองของรัฐบาลเพื่อสกัดการระบาด โดยการขาดตอนของห่วงโซ่การผลิตจะกระทบกลุ่มเทคโนโลยีที่พึ่งพาจีนและเกาหลีใต้ค่อนข้างมาก
องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวน 80,238 รายใน 34 ประเทศและมีผู้เสียชีวิต 2,700 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ยกระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุข จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นระดับสูงสุด เพราะผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวดเร็วมากกว่า 800 ราย ส่วนอิตาลีเป็นประเทศที่ไม่ใช่เอเชียประเทศเดียวที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 130 รายมีผู้เสียชีวิต 7 ราย
CDC เตือนชาวอเมริกันว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะร้ายแรงและควรเตรียมพร้อมรับมือกับการขาดตอนของห่วงโซ่การผลิต แม้ความเสี่ยงต่อสหรัฐฯยังต่ำ
กระทรวงสาธารณสุขได้ของบประมาณเพิ่ม 2.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการจัดหาหน้ากากอนามัย ซึ่งคาดว่าจะขาดแคลนในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า
เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ เผย ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 3.8% จากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนพฤศจิกายน
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 130.7 จาก 130.4 ในเดือนมกราคม แต่ต่ำกว่า 132.6 ที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้นมาสเตอร์การ์ดลดลง 6.71% หลังบริษัทฯยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะมีผลต่อยอดขาย
หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ โฮลดิ้งส์ลดลง 6.49% หลังงดคาดการณ์ผลการดำเนินงานประจำปีจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นอเมริกันเอ็กซ์เพรสลดลง 5.69% หุ้นวีซ่า อิ้งค์ลดลง 3.76%
หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริคลดลง 4.55% หลังนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตบางรายการในงบการเงินประจำปี
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปลดลงต่อเนื่อง หุ้นยูไนเต็ดเทคโนโลยีส์ลดลง 5.30% หุ้นแอปเปิลลดลง 3.39%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงแรง จากการปรับตัวลดลงของหุ้นทุกกลุ่ม โดยตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลงมากที่สุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทางตอนเหนือของอิตาลีและทั่วโลก หลังจากสวิตเซอร์แลนด์ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก ส่วนออสเตรียพบผู้ติดเชื้อสองรายแรก ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้ส่งทีมเข้าไปให้ความช่วยเหลือเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของสถานการณ์ในอิตาลี
ในเยอรมนีเศรษฐกิจไตรมาสสี่ปี 2019 ขยายตัว 0.6% จากการส่งออกที่ชะลอตัว และเป็นการเติบโตที่ต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤติหนี้สาธารณะในยูโรโซนปี 2013
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,017.88 จุด ลดลง 138.95 จุด,-1.94%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 404.60 จุด ลดลง 7.26 จุด,-1.76%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,679.68 จุด ลดลง 112.19 จุด,-1.94%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,790.49 จุด ลดลง 244.75 จุด,-1.88%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 1.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว