HoonSmart.com>>ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส มอง CRC ช่วง 1 เดือน หลังเข้าตลาด ราคาหุ้น Outperform ตลาดได้ดี ได้ 5 แรงขับเคลื่อนหลัก หนุนราคาหุ้นเหนือจองได้ในช่วง 1 เดือนนี้
เรียบร้อยโรงเรียนเซ็นทรัลไปแล้ว สำหรับภาระกิจใหญ่การนำ CRC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้เลยนำมุมมองของฝ่ายวิจัย ASPS เกี่ยวกับหุ้น CRC มาฝากกันครับ
CRC เป็น HoldingCompany ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกที่หลากหลาย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มแฟชั่น คิดเป็น 30.3% ของยอดขาย นำด้วยธุรกิจห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน รีนาเซนเตที่อิตาลี และซูเปอร์สปอร์ต คือร้านอุปกรณ์กีฬา
2.กลุ่มฮาร์ดไลน์ คิดเป็น 28.5% ของยอดขาย ภายใต้ร้านไทวัสดุ ซึ่งจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ร้านบ้านแอนด์บียอนด์คือ สินค้าซ่อมแซมบ้านและเพาเวอร์บายเครื่องใช้ไฟฟ้า
3.กลุ่มอาหาร คิดเป็น 41.2% ของยอดขาย นำด้วยร้านซูเปอร์มาร์เก็ตท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท และไฮเปอร์มาร์เก็ตเวียดนาม บิ๊กซีและลานชี มาร์ท
CRC เสนอขาย IPO 1,691 ล้านหุ้น จากการเพิ่มทุน 1,331 ล้านหุ้น (แลกหุ้น ROBINS 812 ล้านหุ้น และเสนอขายใหม่ 519 ล้านหุ้น), ผู้ถือหุ้นเดิม 360 ล้านหุ้น และหากรวม Green shoe ที่ 169.1 ล้านหุ้น จะคิดเป็น 1,860.1 ล้านหุ้น เงินที่ได้จาก IPO ใช้ขยายธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง ได้แก่ กลุ่มฮาร์ดไลน์ ที่ปัจจุบัน CRC ยังมีส่วนแบ่งไม่สูง
ร้านไทวัสดุและบ้านแอนด์บียอนด์ จากจุดเด่นร้านโมเดิร์น เทรดที่มีศักยภาพแข่งขันสูงกว่ากลุ่มร้านค้าดั้งเดิม ซึ่งยังครองตลาดกว่า 70% ขณะที่อีกแรงขับเคลื่อนหลัก จะมาจากผู้นำตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตบิ๊กซี เวียดนาม ซึ่งโครงสร้างตลาดค้าปลีกในเวียดนาม ยังมีสัดส่วนร้านค้าดั้งเดิมกว่า 80% หนุนให้มีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาด
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินภาพรวมกำไร CRC เบื้องต้นปี 63 หากกำหนดให้ 1.ใช้ฐานกำไร 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 4/61 –ไตรมาส 3/62) ราว 6.5 พันล้านบาท 2.รวมงบ ROBINS อีก 46.17% ในปี 63 ราว 1.4 พันล้านบาท บวกผลกำไรที่ตํ่ากว่าปกติของ CRC จากผลประโยชน์พนักงาน จะทำให้ฐานกำไรปี 63 ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว อยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3% จากกำไร 4 ไตรมาส
เทียบกับราคา IPO ที่ 42 บาท จะมีค่าพี/อีฯ ปี 63 ราว 31.7 เท่า ถือเป็นระดับสมเหตุสมผล หากอิงค่าเฉลี่ย PER และการเติบโตกำไรกลุ่มปี 63 ที่ 30.7 เท่า และ 11.9% ตามลำดับ
ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าราคาหุ้น CRC น่าจะ Outperform ตลาดได้ดีในช่วงเดือนแรกที่เข้าตลาดหุ้น มาจาก 5 แรงขับเคลื่อนหลัก คือ
1. CRC มีมูลค่ากิจการกว่า 2.6 แสนล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับที่ 13 ของหุ้นทั้งหมด
ในตลาดฯ (เข้าเกณฑ์ตลาดมีขนาดใหญ่สุด 1 ใน 20 อันดับแรก) และมีสัดส่วน 1.6% ของตลาด (เข้าเกณฑ์ตลาดสูงกว่า 1%) จึงมีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ได้ทันทีหลังเข้าตลาด T+3 โดย T คือวันซื้อขายในวันแรก ใช้ราคาปิดวันที่ 24 ก.พ.63
2. ระหว่างช่วง T+3 คาดว่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเข้ามาช่วยหนุน เนื่องจากเม็ด
เงินที่จองซื้อหุ้น CRC ก่อนเข้าตลาดฯจาก 6 บลจ.ไทย ยังน้อยกว่าสัดส่วน Market cap
ของ CRC ในตลาด จึงคาดมีเม็ดเงินหนุนเพิ่ม รวมถึงมีแรงเก็งกำไรจากกองทุน Active Fund ในช่วงก่อนที่หุ้น CRC จะถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100
3. มีเม็ดเงินจากกองทุน Index Fund ที่มีวัตถุประสงค์ลงทุนอ้างอิงตามดัชนี คอยหนุนราคาหุ้น ณ วันที่ T+3
4. มี greenshoe อีกกว่า 169 ล้านหุ้น (10% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้) คอยหนุนไม่ให้ราคาหุ้นต่ำจองในระยะเวลา 1 เดือน
5. MSCI ประกาศนำหุ้น CRC เข้าดัชนี MSCI Global Standard แทน ROBINS ทันที
มีผลบังคับใช้ราคาปิดวันนี้ รวมทั้งคาดว่าน่าจะเข้าคำนวณดัชนี FTSE Global Large Cap. เช่นเดียวกับกรณีของ AWC (ประกาศหลังจากเข้าซื้อขาย 1 วัน)
ทั้ง 5 ปัจจัยดังกล่าว น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้น CRC ให้ Outperform ตลาดได้ดีในช่วงนี้ และน่าจะยืนเหนือจองได้ในระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้
