AH-STANLY-SAT ดิ่งกดดัชนีกลุ่มฯ ลูกค้าผลิต “อีซูซุ” จะย้ายไปอินโดฯ

HoonSmart.com>>ดัชนีกลุ่มยานยนต์ดิ่ง 5.21% นำดิ่งโดย AH-STANLY-SAT หวั่นผลกระทบหลังมีข่าวเผยแพร่จากอินโดนีเซียระบุว่า ผู้ผลิตรถยี่ห้ออีซูซุ (Isuzu) มีแผนจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ AH สัดส่วน 25% และเป็นลูกค้าของ SAT สัดส่วน 7-8% รวมถึงเป็นลูกค้า STANLY สัดส่วน 5-6% อย่างไรก็ดี ขณะนี้ฝั่งไทยยังไม่ยืนยันข่าวที่เกิดขึ้น จึงแนะนำให้รอฟังคำชี้แจงจากฝั่งไทยก่อน

เมื่อเวา 10.33 น.ดัชนีกลุ่มยานยนต์ดิ่ง 5.21% มาที่ 509.39 จุด ลดลง 27.97 จุด นำดิ่งโดยหุ้น AH ร่วง 21.02% มาที่ 31 บาท ลดลง 8.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 916.58 ล้านบาท
หุ้น STANLY ร่วง 5.88% มาที่ 208.00 บาท ลดลง 13.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 40.96 ล้านบาท
หุ้น SAT ลบ 4.50% มาที่ 19.10 บาท ลดลง 0.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 51.60 ล้านบาท

นายถกล บรรจงรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น AH, STANLY และ SAT ปรับตัวลงมากในช่วงเช้านี้ คาดว่าจะรับผลจากข่าวที่ออกมาจากสื่อทางอินโดนีเซีย ที่ระบุว่า ผู้ผลิตรถยี่ห้ออีซูซุ (Isuzu) มีแผนจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปอินโดนีเซีย ซึ่ง AH มีสัดส่วนการผลิตชิ้นส่วนให้ 25% จัดว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ AH ส่วน SAT มีสัดส่วนลูกค้ารายนี้ประมาณ 7-8% และ STANLY มีสัดส่วนลูกค้ารายนี้ประมาณ 5-6%

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ต้องรอฝั่งไทยชี้แจงเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียก่อน เพราะตอนนี้ฝั่งไทยยังไม่ได้ยืนยันว่าจะย้ายฐานการผลิต ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนรอดูก่อน จากความเสี่ยงที่ยังมีอยู่ แต่หากข่าวไม่จริงราคาหุ้นก็มีโอกาสดีดขึ้นไปได้

ทั้งนี้ ในแง่ปัจจัยพื้นฐานยังแนะนำ”ซื้อ”หุ้น AH, STANLY และ SAT โดย AH ให้ราคาเป้าหมาย 54.10 บาท, STANLY ราคาเป้าหมาย 232 บาท และ SAT ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า ราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ AH, SAT ปรับลงตอบรับข่าว ISUZU เตรียมโยกการผลิตรถยนต์จากไทยไปอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมอินโดนีเซียเผยบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะโยกย้ายการผลิตรถยนต์จากโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศไทยมายังอินโดนีเซีย โดยจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า ทำให้ตลาดเกิดความกังวล ค่ายรถยนต์อื่นจะทำเหมือน อีซูซุ โดยการส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วน ของไทย ถือเป็นสินค้าออกอันดับ 1 ของประเทศ มีมูลค่าส่งออกราว 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2565 หรือมีมูลค่า 9.83% ของการส่งออกรวมของประเทศ

โดยรวมเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น AH รายได้จาก ISUZU ราว 39% ของยอดขายปี 2565 และ SAT รายได้จาก ISUZU ราว 11 %ของยอดขายปี 2565 คำแนะนำคือ “ชะลอการลงทุน”