ORI ขายหุ้นกู้อายุ 3-4 ปี ก.ค.นี้ ดอกเบี้ย 4.30-4.60% ต่อปี

HoonSmart.com>> “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” (ORI) ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่อายุ 3-4 ปี ชูอัตราดอกเบี้ย 4.30-4.60% ต่อปี คาดเปิดขายผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบัน ระหว่าง 6-7, 10 ก.ค.นี้ อันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” นำเงินซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาโครงการ พร้อมชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนด

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2566 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (รวมถึงผู้ลงทุนรายใหญ่) และผู้ลงทุนสถาบัน เพื่อนำไปใช้ในการซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาโครงการ ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยหุ้นกู้จะเสนอขายทั้งหมดจำนวน 2 รุ่น อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.30-4.40% ต่อปี และอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50-4.60% ต่อปี

สำหรับอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายจะมีการกำหนดในช่วงเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 6 – 7 และ 10 กรกฎาคม 2566 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่”

นายพีระพงศ์ กล่าวต่อว่า ในปี 2566 บริษัทมีแผนธุรกิจภายใต้แนวคิด “Origin Infinity” สร้างการเติบโตและดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด พัฒนาเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ให้กลายเป็น Well-Being Lifetime Company หรือองค์กรที่มีธุรกิจครอบคลุมการดูแลผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต ด้วยการขับเคลื่อน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1. การขยายสินค้าและบริการที่หลากหลายให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (Nationwide serve) 2. การขยายจักรวาลธุรกิจใหม่ให้มีเส้นทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง (Multiverse Expansion) มุ่งพัฒนาชีวิตที่ดีขึ้น (Better Lifetime) ต่อยอดจากแผน Origin Multiverse ในปี 2565 ด้วยการขยายธุรกิจนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยให้มีเส้นทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ 3. การดูแลสังคม (Social Attention) ร่วมใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น (Better Society)

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2566 กลุ่มบริษัทสามารถสร้างยอดขายรวม (Presale) ได้ประมาณ 12,004 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 47% โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 79% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 21%

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มูลค่ารวมประมาณ 44,221 ล้านบาท โดยเป็นยอดจากทั้งโครงการที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กิจการร่วมค้าและโครงการภายใต้กิจการร่วมค้าที่จะทยอยรับรู้ในปี 2566 จำนวนประมาณ 17,195 ล้านบาท เมื่อรวมกับยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เกิดขึ้นแล้วในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 จะส่งผลให้กลุ่มบริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์รออยู่ 72% ของเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2566 จำนวน 30,000 ล้านบาท บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปี 2566 จะสามารถเป็นไปตามเป้าหมายได้ ดังนั้น บริษัทเชื่อมั่นว่าหุ้นกู้ ORI ที่จะเสนอขายในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ และคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณของ 100,000 บาท ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคินภัทร, บล.เอเซีย พลัส, บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) และบล.กรุงศรี พัฒนสิน