กลุ่มไฟแนนซ์ดิ่ง หวั่นธปท.จะเข้าควบคุมธุรกิจเช่าซื้อ

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์อ่อนลง นำดิ่งโดย SAK-SGC-SAWAD-MTC หวั่นธปท.จะเข้ามาควบคุมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ด้านบล.ดาโอ มองการเข้ามาควบคุมในครั้งนี้จะคุมด้านการดำเนินงาน และ market conduct ให้มีความโปร่งใส และเปรียบเทียบได้มากขึ้น มีโอกาสคุมด้านค่าปรับ-เกณฑ์ LTV ปัจจุบันผู้ประกอบการเช่าซื้อได้ทยอยปรับลด LTV และเพิ่มเงินดาวน์ หลังมีการควบคุมอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ ม.ค. ที่ผ่านมาแล้ว โดยธปท.คงจะยังไม่เข้ามาควบคุมดอกเบี้ยเช่าซื้อเพิ่มจากที่สคบ.ควบคุมในช่วง ม.ค.66

หุ้นในกลุ่มธนาคาร และไฟแนนซ์อ่อนตัวลง โดยเมื่อเวลา 14.43 น.หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์นำดิ่งโดยหุ้น SAK ลบ 4.20% มาที่ 5.70 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 18.35 ล้านบาท
หุ้น SGC ลบ 3.85% มาที่ 2.00 บาท ลดลง 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 11.64 ล้านบาท
หุ้น SAWAD ลบ 3.54% มาที่ 54.50 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 355.52 ล้านบาท
หุ้น MTC ลบ 2.42% มาที่ 40.25 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 477.35 ล้านบาท

ตามที่มีรายงานข่าวว่า สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ได้มีการประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อเตรียมความพร้อมการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเบื้องต้นภายในกลางเดือนมิ.ย. จะเริ่มมีการทำ Focus Group หารือประกาศ ธปท. และแบบรายงานข้อมูล สำหรับกลุ่มบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์, ผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงก์) และ captive finance ทั้งนี้คาดว่าภายใน 1 ส.ค. พ.ร.ฎ. จะสามารถประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาได้ และจะชี้แจงและรับฟังความคิดเห็น (Hearing) คาดจะใช้เวลาทั้งสิ้น 90 วัน ซึ่งจะทำให้พ.ร.ฎ. จะมีผลบังคับใช้ใน 1 พ.ย.

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองเป็นกลางต่อข่าวที่ ธปท. จะเข้ามาควบคุมสินเชื่อเช่าซื้อ เนื่องจากครม. มีการอนุมัติร่าง พ.ร.ฎ. กำกับธุรกิจเช่าซื้อรถและลีสซิ่งอยู่ ใต้กฎหมายสถาบันการเงิน ให้อำนาจแบงก์ชาติดูแลตรวจสอบได้ ตั้งแต่ มี.ค. 2566 ที่ผ่านมาแล้ว อีกทั้งประเมินว่าการเข้ามาควบคุมในครั้งนี้จะเป็นการควบคุม ด้านการดำเนินงาน และ market conduct ให้มีความโปร่งใส และเปรียบเทียบได้มากขึ้น โดยคาดว่ามีโอกาสที่จะเป็นการควบคุมด้านค่าปรับ และเกณฑ์ LTV ซึ่งในปัจจุบันผู้ประกอบการเช่าซื้อ ได้ทยอยปรับลด LTV และเพิ่มเงินดาวน์ ภายหลังที่มีการควบคุมอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ ม.ค. ที่ผ่านมาแล้ว

ขณะที่ คาดว่า ธปท. จะยังไม่เข้ามาควบคุมอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อเพิ่มเติมจากที่ สคบ. ควบคุมในช่วง ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา (รถยนต์ใหม่ 10% รถยนต์เก่า 15% และ รถจักรยานยนต์ 23%) เนื่องจาก ธปท. ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้ทำเฮียริ่งช่วงที่ สคบ.จะทำควบคุมในปี 2565

ทั้งนี้ คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มไฟแนนซ์ “มากกว่าตลาด” จาก NPL ที่จะผ่านจุดสูงสุดในไตรมาส 2/66 และจะทยอยดีขึ้นช่วงครึ่งหลังปี 66 ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเร่งปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมทั้งต้นทุนทางการเงินที่จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง ภายใต้สมมติฐานที่ กนง. จะไม่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งหลังปี 66 จากเงินเฟ้อที่ดีขึ้น โดยมี Top pick เป็น TIDLOR (ซื้อ/เป้า 33.00 บาท)

ส่วนกลุ่มธนาคาร มองเป็นกลาง หากมีการปรับเกณฑ์เฉพาะเรื่อง market conduct เพราะกลุ่มธนาคารอยู่ภายใต้ ธปท. อยู่แล้ว แต่หากมีการควบคุมเรื่องค่าปรับ หรือ LTV ก็จะเป็น sentiment เชิงลบ ต่อกลุ่มธนาคารที่มีบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ทาธุรกิจลิสซิ่ง เช่น K-Leasing (KBANK), T-Leasing (TTB), SCB Leasing (SCB), KTB Leasing (KTB) และ Hi-Way (TISCO) ได้ โดยยังคงต้องรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ธปท. อีกครั้ง ทั้งนี้ ยังคงน้าหนักกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก BBL (ซื้อ/เป้า 195 บาท), KTB (ซื้อ/เป้า 21 บาท) เป็น Top pick