HoonSmart.com>> “จิรัชย์ วงษ์ตระหง่าน” ซีอีโอ MPIC ยันกลุ่มทุนใหม่ ไม่เกี่ยวข้อง STARK ย้ำ “ขันเงิน” ซื้อธุรกิจใช้เงินส่วนตัวและเงินสินเชื่อ พร้อมเดินหน้าธุรกิจ Soft Power ขอเวลา 3 เดือน คลอดแผนธุรกิจ ด้าน “ทรงพล “ COO เผย MPIC ยังผลิต-ซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ พันธมิตรเมเจอร์ และเปิดทางพันธมิตรทุกค่ายเอนเตอร์เทนเม้นท์
นายจิรัชย์ วงษ์ตระหง่าน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC ) เปิดเผย HoonSmart.com ว่า กระแสข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ นายขันเงิน เนื้อนวล และบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น ( STARK ) ยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ซึ่งดีลการซื้อขายหุ้นของนายขันเงิน กับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป ( MAJOR) เกิดขึ้นจาก นายทรงพล เชาวโยธิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (COO ) ของ MPIC – นายขันเงิน และกลุ่มเพื่อน สนใจทำธุรกิจร่วมกัน และมีโอกาสได้คุยกับ วิชา พูลวรลักษณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ MAJOR และเป็นถือหุ้นใหญ่ ใน MPIC ที่ต้องการขายและหาคนซื้อ MPIC ที่เป็นพันธมิตรต่อยอดธุรกิจให้กับ MPIC ซึ่งขณะนั้น มีผู้สนใจซื้อหลายราย
กลุ่มนายขันเงิน ซึ่งมีความสนใจซื้อ และต้องการทำการซื้อขายเป็นมืออาชีพ และขณะนั้นมีผู้สนใจหลายราย โดยให้ทนาย “ชินวัฒน์ อัศวโภคี” เข้ามาล็อกดีลสัญญาซื้อขายไว้ก่อน ซึ่งขณะนั้น นายชินวัฒน์ เป็นกรรมการอยู่ใน STARK แต่ไม่ได้มีส่วนบริหารใด ๆ เมื่อการซื้อขายชัดเจน นายขันเงิน จึงเป็นผู้ทำสัญญาซื้อขายด้วยตัวเอง โดยเงินที่ซื้อขายส่วนหนึ่งเป็นของนายขันเงิน และอีกส่วนเป็นเงินจากกองทุน
“เงินที่คุณขันเงิน นำมาซื้อ MPIC ส่วนหนึ่งมาจากเงินส่วนตัวของนายขันเงิน ซึ่ง “ขันเงิน” อยู่ในธุรกิจบันเทิง มาครึ่งชีวิต ทำคอนเสิร์ต และทัวร์ต่างประเทศ เห็นเทรนด์ใหม่ ๆ ของเอนเตอร์เทนเมนท์ อีกทั้ง “ขันเงิน” และครอบครัว ธุรกิจเครื่องดื่ม และเคยทำธุรกิจสายการบิน ต้องยอมรับว่า การทำธุรกิจ ไม่มีใครนำเงินสด 100% มาลงทุน กรณีของ MPIC มีกองทุนสนับสนุน ทำให้โปรเจคซื้อขายครั้งนี้เกิดขึ้น”
นายทรงพล เชาวนโยธิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (COO ) MPIC กล่าวเสริมว่า ยืนยันธุรกิจหลัก MPIC ทั้งการผลิตภาพยนตร์ และการซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ยังดำเนินการตามปกติ พนักงานยังอยู่ครบ กลุ่มผู้ซื้อใหม่ ที่นำโดยขาย “ขันเงิน” ยังไม่ได้ซื้อแต่โครงเปล่าของ MPIC แต่ซื้อธุรกิจเข้ามาบริหารงานต่อ อีกทั้ง ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ MAJOR และเปิดทางเจรจากับพันธมิตรใหม่อีกหลายราย เพื่อต่อยอดธุรกิจเป้าหมายของนายขันเงิ ที่เห็นกระแสใหม่ ๆ ในวงการเอนเตอร์เทนเมนท์ของโลก
“คุณขันเงิน มีความตั้งใจทำ Solf Power จริง ทั้งเครื่องดนตรี , อาร์ท หรือเรื่องใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับหนัง-ดนตรี เพราะขันเงิน อยู่ในธุรกิจนี้มากว่าครึ่งชีวิต ทำให้เข้าใจธุรกิจเอนเตอร์เทนท์ใหม่ ๆ ของโลกสมัยใหม่ ต้องการส่งเสริม เป็นสปอร์ตไลน์ หรือสปริงบอร์ด ให้คนรุ่นใหม่ ในธุรกิจใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Tik Tok หรือยูทูป “
“แผนธุรกิจ MAJOR และโครงการใหม่ ๆ คาดใช้เวลา 3- เดือน ในการประกาศแผน และจะเห็นผลลัพธ์ในปี 2567 ซึ่งกลุ่มบริหารใหม่ เพิ่งเข้ามาไม่ถึง 1 เดือน ซึ่ง “ขันเงิน” และทีมผู้บริหาร – พนักงาน มุ่งมั่นทำงาน เพื่อผลิตผลงานใหม่ ๆ ในวงการเอนเตอร์เทนท์ ติดตามดูครับ “ นายทรงพล กล่าวทิ้งท้าย