หุ้นเช้านี้บวก 5.17 จุด ราคาน้ำมันขึ้นหนุน-เล็งเฟดคงดบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 5.17 จุด ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น-เล็งเฟดคงดอกเบี้ยในการประชุม 13-14 มิ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสพัฒนาการการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายเศรษฐกิจ

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 6 มิ.ย.2566 ณ เวลา 10.00 น.อยู่ที่ระดับ 1,536.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.17 จุด หรือ +0.34% มูลค่าซื้อขาย 1,628.95 ล้านบาท

บล.กรุงศรี มอง SET แกว่งตัว 1,520 – 1,540 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังโอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน เริ่มม.ค. 2567 รวมถึงคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.00-5.25% ในการประชุม 13-14 มิ.ย. อย่างไรก็ตามกระแส Fund flow ต่างชาติที่ผันผวนจะเป็นตัวกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลงจึงแนะนำ Selective buy ต่อไป

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน SET Index แกว่ง Sideways Up กรอบ 1,520-1,545 จุด กลุ่มน้ำมันต้น-กลางน้ำคาดยังช่วยหนุนตลาดได้อีกเล็กน้อยหลังการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส และซาอุฯลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรลหนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในระยะสั้น ขณะที่ประเด็นการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯที่คลี่คลายตลาดตอบรับไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ ตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานสหรัฐฯโดยรวมยังแข็งแรง แต่เริ่มเห็นสัญญาณแผ่วในภาคบริการหลัง ISM Services PMI ลดลงเหลือ 50.3 พ.ค. แม้จะยังอยู่ในช่วยขยายตัว แต่แผ่วจากเดือนก่อนที่ 51.9 และต่ำกว่าคาดที่ 52.2 ส่วนโฟกัสของตลาดตอนนี้คือการประชุมเฟดสัปดาห์หน้าว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 5-5.25% หรือไม่ ขณะที่ US CPI จะประกาศสัปดาห์ก่อนการประชุมเช่นกัน

ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสยังคงอยู่ที่พัฒนาการการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายเศรษฐกิจที่จะออกมาในระยะถัดไป ทำให้หุ้นที่มีความเสี่ยงถูกกระทบจากนโยบายรัฐบาลใหม่จะยังถูกกดดันและปรับขึ้นได้จำกัด จึงมองระยะสั้น Upside ของสินทรัพย์เสี่ยงยังไม่กว้างจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในครึ่งหลังปี 66 ที่มีแนวโน้มชะลอชัดขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อและดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับสูงกว่าปกติอีกระยะหนึ่ง ทำให้ภาคการส่งออกคาดว่ายังไม่สดใส จึงยังคงเน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic มากกว่า Global Play โดยเลือกหุ้นที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลใหม่จำกัด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
AOT อยู่ที่ 69.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.41% มูลค่าซื้อขาย 233.21 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 101.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +2.53% มูลค่าซื้อขาย 217.10 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.75% มูลค่าซื้อขาย 171.58 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 28.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 97.34 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 213.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.47% มูลค่าซื้อขาย 83.90 ล้านบาท