HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดบวก 9.80 จุด ตามตลาดภูมิภาค ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหายขยายเพดานหนี้-คาดหวังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมมิ.ย.นี้ ส่ง Dollar Index อ่อนตัวลง เงินบาทแข็งค่าขึ้น ราคาน้ำมันรีบาวด์หนุนกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นเด้งขึ้น นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 601.82 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 337.19 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้ามีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,555-1,535 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 มิ.ย.66 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,531.20 จุด เพิ่มขึ้น 9.80 จุด หรือ +0.64% มูลค่าซื้อขาย 42,523.30 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,534.49 จุด ต่ำสุด 1,524.52 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 601.82 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 185.00 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 337.19 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 79.63 ล้านบาท
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน ตอบรับข่าววุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ และคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ หลังจากน้ำหนักที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเหลือแค่ 30% จากความเห็นของเฟดหลายท่านอยากหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น และ Dollar Index อ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันก็รีบาวด์ขึ้นด้วย ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มพลังงาน และโรงกลั่น ต่างปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐคืนนี้ และติดตามความคืบหน้าการเมืองไทยที่ยังมีความไม่แน่นอน
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าออกมาชะลอตลาดฯก็มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,555-1,535 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 99.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.02% มูลค่าซื้อขาย 1,568.97 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 105.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.44%% มูลค่าซื้อขาย 1,392.94 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 70.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,349.44 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.94% มูลค่าซื้อขาย 1,305.53 ล้านบาท
TTB ปิดที่ 1.67 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ +3.09% มูลค่าซื้อขาย 1,228.39 ล้านบาท