YLG มองทองย่อตัวกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย แนะเก็งกำไรระยะสั้น ถือยาวรอซื้อ 1,933 เหรียญ

HoonSmart.com>> “วายแอลจี” มองทองคำย่อตัวรับความกังวลเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยประชุมเดือน ก.ค.นี้ ระยะสั้นแนะซื้อเก็งกำไรได้ หากลงทุนระยะยาวรอจังหวะปรับฐานแนวรับ 1,933 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ระยะยาวครึ่งปีหลังมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ เหตุเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง ส่วนราคาทองในประเทศลงไม่มากหลังบาทอ่อน มองกรอบเคลื่อนไหว 31,800-32,950 บาทต่อบาททองคำ

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าภาพใหญ่ยังดูดียังไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,933 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ในระยะสั้นมองว่ายังมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก เนื่องจากมีปัจจัยลบสำคัญ จากการประเมินรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 2-3 พ.ค. และ ถ้อยแถลงของผู้ว่าการเฟดแลประธานเฟดสาขา มีหลายเสียงเริ่มเห็นว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก โดยเฉพาะรอบการประชุมเดือน ก.ค.ปีนี้ เพราะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง จึงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง กดดันทองคำให้ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ดีแม้ว่าราคาทองคำในช่วงนี้จะปรับตัวลดลงมาพอสมควรเมื่อเทียบจากจุดสูงสุดของปีนี้ที่ไปแตะระดับ 2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ อย่างไรก็ดีมองว่าสถานการณ์นี้สามารถเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นได้ แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวมองว่ายังไม่ใช่จังหวะที่ดีในการเข้าเก็บ โดยแนะนำว่าควรรอจังหวะปรับฐาน และรอซื้อที่แนวรับ 1,933 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ทั้งนี้หากทองคำสามารถยืนได้ที่แนวรับ 1,933 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ก็มีโอกาสที่จะกลับขึ้นไปหาแนวต้าน 1,984-2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

ส่วนราคาทองคำในประเทศนั้นช่วงนี้ไม่ได้ปรับลดลงมาก เนื่องจากค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า โดยมองกรอบราคาทองคำในประเทศที่แนวรับ 31,800 บาทต่อบาททองคำ แนวต้าน 32,600-32,950 บาทต่อบาททองคำ โดยนับจากต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองคำในประเทศถือว่าปรับตัวขึ้น 2,450 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.24% (คำนวณจากราคาปัจจุบันที่ 32,200 บาท)

ทั้งนี้ วายแอลประเมินว่าระยะยาวช่วงครึ่งปีหลังราคาทองคำจะยังกลับเป็นเคลื่อนไหวในแดนบวก เพราะปัจจัยเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้ดีขึ้น โดยในส่วนของสหรัฐนั้นการแก้ปัญหาเพดานหนี้เป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานยังน่าเป็นห่วง จึงยังมองว่าทองคำจะมีโอกาสไปทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งภายในปีนี้