“เจเนซีส” ขึ้นแท่นผู้นำอาเซียน ชูจุดแข็งบริการผู้มีบุตรยาก

HoonSmart.com >> ” เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี้ เซ็นเตอร์ (GFC) ” ขึ้นแท่นผู้นำอาเซียน ชู 4 จุดแข็งให้บริการผู้มีบุตรยากครบวงจร เตรียมขาย IPO 60 ล้านหุ้น เข้าตลาด mai ไตรมาส 3 นี้ 

รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ ประธานกรรมการ บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี้ เซ็นเตอร์ ( GFC) เปิดเผยว่า บริษัท ฯ เป็นผู้นำด้านการให้บริการทางการแพทย์ สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี  ตั้งแต่ให้คำแนะนำ-ปรึกษา ตลอดจนการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์

บริษัท ฯ มี 2 บริษัทย่อย ประกอบด้วย 1. บริษัท จีโนโซมิกส์  ( GSM ) ให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน และ 2.บริษัท จีเอฟซี เฟอร์ทิลีตี กรุ๊ป  (GFCFG) เป็นบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อลงทุนกิจการอื่น

ธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1). การให้บริการตรวจเบื้องต้นก่อนให้คำแนะนำหรือรักษา 2). การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI (Intrauterine insemination) 3). การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection)

4). การให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน (Next generation sequencing: NGS) และ 5) การให้บริการแช่แข็งไข่และการฝากไข่

กลุ่มลูกค้าบริษัท ฯ ประกอบด้วยกลุ่มลูกค้าที่วางแผนการมีบุตรในอนาคต , กลุ่มคู่สมรสคนไทยที่สนใจอยากมีบุตร , กลุ่มลูค้าคู่สมรสคนไทย+ชาวต่างชาติ  และกลุ่มลูกค้าคู่สมรสชาวต่างชาติ

รศ.นพ.พิทักษ์ กล่าวว่า จุดแข็งของ GFC ให้ผลการรักษาที่มีคุณภาพ โดย 1.มีการให้บริการครบวงจร , 2.ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความสำเร็จการมีบุตรได้สูงกว่าคู่แข่ง , 3.บุคลากร-ทีมแพทย์ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี  และ 4. การประชาสัมพันธ์ เช่น การไลฟ์สด เป็นช่องทางที่คนไข้ ได้พูดคุยกับแพทย์

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  GFC กล่าวว่า  การเข้าตลาด mai เป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถโอกาสการเติบโตในอนาคต สู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ดีที่สุด ภายใต้นวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดของไทย ตั้งเป้า เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในภูมิภาคอาเซียน ที่มีความมั่นคง ยั่งยืน และยึดมั่นในหลักจริยธรรม

วัตถุประสงค์การระดมทุน ใช้ลงทุนขยายสาขาสุวรรณภูมิ พระราม 9 รองรับลูกค้าต่างชาติ และสาขาอุบลราชธานีโดยร่วมทุนกับแพทย์ในพื้นที่ ตลอดจนขยายสาขาย่อยอื่น ๆ ตามพื้นที่ต่างจังหวัดควบคู่กับการเพิ่มศูนย์ฝึกอบรม นักเทคนิคการแพทย์  รวมใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ที่ปรึกษาทางการเงิน  กล่าวว่า GFC ยื่นแบบเสนอข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้ว เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.27% ของหุ้นทั้งหมดหลังเพิ่มทุน คาดเข้าตลาด mai ภายในไตรมาส 3/2566 หมวดธุรกิจบริการ ถือเป็นผู้นำบริการทางการแพทย์ผู้มีบุตรยาก รายแรกที่เข้าตลาดหุ้น

ปัจจุบัน GFC มีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 80 ล้านบาท  จำนวน 160 ล้านหุ้น และภายหลังการตลาดหุ้น จะมีหุ้นสามัญเพิ่มเป็น 220 ล้านหุ้น  มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

ผลดำเนินงานย้อนหลัง 2563-2565  มีการเติบโตต่อเนื่อง  มีรายได้การให้บริการ 214.42 ล้านบาท 242.12 ล้านบาท และ 275.91 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้สอดคล้องกับจำนวนผู้เข้ามารับบริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก ด้วยวิธี ICSI เป็นรายได้หลัก

ขณะที่กำไรสุทธิปี 2563 -2565 เท่ากับ 66.55 ล้านบาท 69.63 ล้านบาท และ 65.68 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 31.04 ร้อยละ 28.76 และ ร้อยละ 23.81 ของรายได้จากการให้บริการ

สาเหตุ ที่กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิในปี 2565 ลดลงเมื่อเทียบจากปี 2564 เนื่องมา กลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภายหลังจากคลินิก GFC สาขาสุวรรณภูมิ พระราม 9 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ จะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น